พายุพัดถล่มหลายพื้นที่ทั่วไทย ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก บ้านเรือนพังเสียหายหลายหลัง

ที่จังหวัดเพชรบุรี เกิดลมพายุพัดถล่ม ในพื้นที่ หมู่ 4 บ้านหนองส้ม ตำบลสระพัง อำเภอเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลัง จากการตรวจสอบพบว่า บ้านของนางอวน ศรีสุวรรณ อายุ 45 ปี ถูกพายุพัดหลังคาเสียหาย และปลิวไปทับรถจักรยานยนต์ เสียหาย 1 คัน

นอกจากนี้ ยังพบว่า หลังคาของหอพักแห่งหนึ่ง ปลิวมาตกทับบ้านของนางอวน แรงกระแทก ทำให้โครงสร้างหลังคาพังเสียหาย ฝ้าหลังคาในทุกห้อง พังถล่มลงมากองกับพื้น ทรัพย์สินต่างๆ ภายในบ้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

นางอวน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนเองและลูกชายนั่งพักอยู่ภายในบ้าน ขณะนั้นเกิดมีพายุลมกระโชกแรง และฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องนานกว่า 1 ชั่วโมง แรงลมได้พัดหลังคาบ้าน ซึ่งเป็นกระเบื้อง ปลิวลอยขึ้นไปบนอากาศ ตนเองและลูกชาย ได้วิ่งมาหลบที่มุมห้องโถง จากนั้นไม่นาน ได้ยินเสียงกระแทกเสียงดัง ก่อนจะพบว่า หลังคาบ้านทรุดพังลงมาเกือบทั้งหลัง ทำให้ต้องวิ่งออกนอกบ้าน

ทั้งนี้ พายุยังสร้างความเสียหาย ให้แก่บ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงอีกกว่า 15 หลัง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอเขาย้อย ได้ตัดกระแสไฟฟ้า และเร่งซ่อมแซมแล้ว

ไม่ต่างจากที่จังหวัดขอนแก่น ที่เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่ตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่น พายุฤดูร้อนได้พัดหลังคาบ้านเรือนประชาชน ลอยไกลกว่า 2 กิโลเมตร ก่อนที่จะมาตกทับเสาอากาศวิทยุชุมชน ที่ตั้งอยู่ภายในตลาดท่าพระ ทำให้เสาที่มีความสูงกว่า 20 เมตร หักลงมาหลายท่อน นอกจากนี้ หลังคาที่ปลิวมาตามแรงลม ได้ตกใส่หน้าร้านจำหน่ายของชำ และรถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้รับความเสียหาย

ส่วนที่ป้อมตำรวจ บริเวณสามแยกท่าพระ-โกสุมพิสัย แรงลมพัดเต๊นท์ลงมาใส่รถยนต์ตำรวจสถานีตำรวจภูธรท่าพระ ได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกัน พบว่า เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 9 ต้น ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง นานหลายชั่วโมง

เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดขอนแก่น เร่งซ่อมแซมและแก้ไข เพื่อที่จะให้มีไฟฟ้าใช้ในค่ำคืนนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ในพื้นที่ 6 หมู่บ้าน

ส่วนที่จังหวัดหนองบัวลำภู พายุฤดูร้อนได้พัดบ้านพังกว่า 122 หลังคาเรือน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 366 คน ในพื้นที่ 8 ตำบล ได้แก่ ตำบลปางกู่ ตำบลบ้านค้อ ตำบลโนนสัง ตำบลโคกม่วง ตำบลโนนเมือง ตำบลหนองเรือ ตำบลโนนเมือง ตำบลนิคมพัฒนา และตำบลโคกใหญ่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลตำบลโนนสังและหนองเรือ

ด้านนายธนิต พันธ์หินกอง นายอำเภอปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และให้กำลังประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจ ากพายุพัดถล่มในพื้นที่ ในช่วงคืนวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา

เบื้องต้นพบว่า มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 4 ตำบล 24 หมู่บ้านประกอบด้วย ตำบล หนองแคน / บัวแดง /โนนสง่า / และตำบลดอกล้ำ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 618 หลัง ยุ้งฉาง 64 หลัง โรงเรือน 21 หลัง และวัด 2 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีต้นไม้หักโค่นทับสายไฟแรงสูงขาด ทำให้ไฟฟ้าดับเกือบทั้งอำเภอ

เช่นเดียวกับนายวิชาญ แท่นหิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ได้เข้าสำรวจความเสียหายจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน โดยเฉพาะที่ในเขตอำเภอยางตลาด มีบ้านเรือนของประชาชน ได้รับความเสียหายจำนวน 139 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ถูกลมพัด จนหลังคาบ้านเรือนปลิวเสียหายทั้งหลัง

นายวิชาญ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา ที่อำเภอท่าคันโท มีบ้านเสียหาย จากอิทธิพลพายุฤดูร้อน 240 หลังคาเรือน และตลอดทั้งคืนของวันที่ 24 เมษายน เกิดพายุฤดูร้อนใน 5 อำเภอ บ้านเสียหาย 437 หลังคาเรือน และมีเสาไฟฟ้าถูกลมพัดเสียหายจำนวนมาก

ทั้งนี้ ได้แจ้งไปยังพื้นที่ต่างๆ เฝ้าติดตามปัญหาทั้ง 18 อำเภอ เพื่อประกาศเตือนให้ประชาชนอยู่ในที่ปลอดภัย เมื่อเกิดปัญหาพายุฝนหรือพายุฟ้าผ่า

ขณะที่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำอย่างรุนแรง 2 อำเภอ ส่งผลให้บ้านเรือนราษฎร เสียหายรวม 107 หลังคาเรือน ที่อำเภอวิเชียรบุรี บ้านเสียหาย 7 ตำบล จำนวน 87หลังคาเรือน ส่วนอำเภอศรีเทพ เสียหาย 2 ตำบล จำนวน 17 หลังคาเรือน

โดยที่บ้านนายทองอยู่ พรมชมชา ในอำเภอวิเชียรบุรี ถูกแรงลมพายุพังทั้งหลัง ข้าวของเครื่องใช้ ภายในบ้าน ได้รับความเสียหายทั้งหมด ส่วน รถยนต์ถูกกำแพงอิฐล้มใส่ จนหลังคายุบ กระจกด้านข้างแตก และมีหญิงอายุ 65 ปี ถูกกำแพงอิฐบล็อกพังถล่มทับ ได้รับบาดเจ็บ

เบื้องต้น นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ สำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว