ผู้ว่าการ สตง. ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนของ องค์การบริหารส่วนตำบลพรหมพิราม โดยการนำเจ้าหน้าที่ไปสุ่มเจาะ จนพบว่ามีการก่อสร้างผิดสเป็ก

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน พร้อมคณะ นำเครื่องขุดเจาะผิวถนนคอนกรีต ลงพื้นที่ตรวจสอบทุจริตการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ใน 11 สาย ภายในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นงบประมาณของ อบต.พรหมพิราม ในโครงการปรับปรุงถนนคอนกรีตเสริมเหล็กภายในหมู่บ้านต่างๆ ระยะทางเฉลี่ยหมู่บ้านละ 100 เมตรเศษๆ จำนวน 11 เส้นทาง

ตามสัญญาจ้างมูลค่ากว่า 3,316,000 บาท สืบเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่า การก่อสร้างถนนสายต่างๆ เหล่านี้ มีความหนาเพียง 10-13 เซนติเมตร ซึ่งไม่เป็นไปตามรูปแบบการประกอบสัญญาจ้างที่กำหนดความหนา 15 เซนติเมตร และ สำนักงานตรวจสอบพิเศษภาค 10 ได้มีหนังสือแจ้งเพื่อทบทวนแก้ไข

แต่ทาง อบต.พรหมพิราม กลับดำเนินการเทคอนกรีตธรรมดาทับหน้าบนผิวถนนเดิม เพื่อให้ถนนมีความหนาเป็นไปตามรูปแบบ โดยนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิราภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า สตง.ได้รับข้อมูลถนนว่า ไม่เป็นไปตามรูปแบบ คือ หนา 15 เซ็นติเมตร เบื้องต้นจึงได้มีการแจ้งเตือนให้ทบทวน

เพราะระเบียบราชการ ถ้าก่อสร้าง ไม่เป็นไปตามรูปแบบรายการ จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง จากนั้นจึงค่อยมีการตรวจรับงานได้ ส่วนกรณีแก้ไขแบบ เพื่อเอื้อประโยชน์ผู้รับเหมา ยืนยันไม่มีระเบียบกระทำได้ ความหนาที่ไม่ถึงตามรายการ กลับไปเททับเพิ่ม หรือแก้ข้อสัญญา ก็ไม่สามารถกระทำได้

เพราะไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ การแก้สัญญาถือว่าเอื้อประโยชน์ผู้รับเหมา เนื่องจากการทำถนนไม่เหมือนทำขนมชั้น เบื้องต้นทาง สตง. จะทำหนังสือทักท้วง เรียกเงินที่ทาง อบต.พรหมพิราม จ่ายให้กับผู้รับเหมาจำนวน 3 ล้านกว่าบาทคืน ก่อนจะมีการสอบสวนต่อไป ว่าทำไมทาง อบต. รู้เรื่องแล้วจึงปล่อยให้มีการแก้ไข อาศัยอำนาจอะไรไปแก้แบบ และแก้สัญญาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับเหมาหรือไม่ต่อไป