ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผย วันนี้ (30เม.ย.) เตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาซื้อบริการเด็กหญิงแม่ฮ่องสอน 7-8 คน มีทั้งนายตรวจยศพันตำรวจโท และข้าราชการครู และแม่เล้า 2 คน
พลตำรวจโท พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เดินทางไปยัง กองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด แม่ฮ่องสอน เพื่อมอบนโยบายและเร่งติดตามผลการกวาดล้างการค้าประเวณี โดยมี พลตำรวจตรีปรีชา วิมลไชยจิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรแม่ฮ่องสอนให้การต้อนรับ
พลตำรวจโท พูนทรัพย์ เปิดเผยการสืบสวนขยายผลการค้าประเวณี อย่างใกล้ชิด ล่าสุด วันนี้(30เม.ย.) จะมีการออกหมายจับ กลุ่มผู้ที่เข้าไปซื้อบริการร่วมหลับนอนกับเด็กหญิง เพิ่ม 6- 7 ประกอบด้วย ตำรวจ ข้าราชการครู ในจำนวนนี้เป็น แม่เล้าอีก 2 ราย ลักษณะความผิดเข้าไปซื้อบริการ ความผิด ต่างกรรมต่างวาระ บางคนบังคับข่มขืนในลักษณะรุมโทรม
โดยผู้ต้องหา ส่วนใหญ่ผู้ที่กระทำผิดจะเป็นตำรวจ ตามการสอบปากคำเด็กสาว ที่ค้าประเวณี แต่การสอบสวนต้องสะดุดเนื่องจากผู้เสียหาย จำเหตุการณ์และบุคคลได้ไม่ชัดเจน
แต่สำหรับข้าราชการ ตำรวจ ผู้เสียหายจำได้แม่นยำ โดยนายหนึ่งมียศ พันตำรว๗โท ตำแหน่ง ระดับรองผู้กำกับ ขณะนี้อยู่นอกพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนคนอื่นๆ อยู่ในแม่ฮ่องสอน
ล่าสุดมี ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนควบคุมตัว สิบตำรวจตรีสังกัด สภ.กองก๋อย จ.แม่ฮ่องสอน มาดำเนินคดี หลังเข้าไปซื้อบริการเด็กหญิง
จากการสอบสวน สิบตำรวจตรี ยอมรับว่า ซื้อบริการทางเพศกับแม่เล้าที่ จัดส่งเด็กสาวมาให้บริการ อีกทั้งซัดทอดเพื่อนตำรวจสังกัดเดียวกันอีก 2 นาย มีส่วนร่วมในวันเกิดเหตุ ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.แม่สะเรียง
โดย พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน พิจารณาหมายจับตำรวจทั้ง 3 นาย ในข้อกล่าวหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราในลักษณะโทรมหญิง
ล่าสุดหญิงสาวมี หญิงที่เคยค้าประเวณีและเคยถูกตำรวจล่อจับ ได้ออกมาเปิดเผยเพิ่มตนเองมีฐานะยากจน จึงตัดสินใจรับงาน ขายบริการให้กับ คนชื่อจ.
ให้บริการ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ในสังกัด อบต. อบจ. รวมไปถึง ครู หมอ ทำมานานกว่า 4 ปี ก็เลิกค้าประเวณีเมื่อปี 2559 เพราะถูกจับ และถูกตำรวจคุมตัวไปข่มขู่ที่ สนามยิงปืนและถูกยึดโทรศัพท์มือถือไม่ให้ติดต่อกับญาติ จนกระทั่งตำรวจได้ล่อซื้อ การค้าประเวณี เมย์ และ เจ๊ฟ้า ได้ จึงได้มีการควบคุมตัวไปส่งพนักงานสอบสวนที่สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน
ตำรวจเอาเงินมาวางบนโต๊ะ และบอกว่า ตนเอง ขอความร่วมมือ ให้ ยืนชี้เงินและถ่ายรูปไว้ด้วย สำหรับการค้าประเวณีในจ.แม่ฮ่องสอน ส่วนใหญ่เด็กจะยินยอมและสมัครใจเองไม่มีการบังคับหรือขู่เข็ญ
แต่เนื่องจาก ทุกคนที่เข้าวงการ มีฐานะยากจน ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง และแขกที่มาใช้บริการจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่และเป็นข้าราชการระดับสูงทั้งสิ้น เด็กๆที่ชอบไปรวมตัวอยู่ที่ร้านเสริมสวย จะรับเป็นธุระจัดหาแขกให้ ต่อมาเด็กก็จะรับงานโดยตรงเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายตำรวจ และข้าราชการ ที่บอกต่อๆกัน ซึ่ง เด็กส่วนใหญ่จะไม่กล้าปฏิเสธ
ด้าน นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ของแม่ หญิงสาวซึ่งเคยค้าประเวณี จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)เพื่อพบ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด 2 กลุ่ม
กลุ่มแรกเป็นกลุ่มข้าราชการตำรวจ ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าท ด.ต.ยุทธชัย ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีการสืบสวนสอบสวน และกลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มผู้ซื้อประเวณีจากเหยื่อ 3 คน ทราบว่าชุดสืบสวนมีการสืบสวนย้อนไป 2 ปีก่อนหน้านี้ พบว่ามีกลุ่มข้าราชการที่เข้ามาซื้อบริการเด็กทั้งที่เหยื่อบางคนยังเป็นเยาวชน มีทั้งข้าราชการตำรวจที่มีทั้งตำรวจในพื้นที่ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และระดับ ผกก.
จากนอกพื้นที่เข้าไปซื้อบริการ ส่วนข้าราชการหน่วยอื่นๆ ทราบว่าเป็นข้าราชการใน จ.แม่ฮ่องสอน ในส่วนซื้อบริการคาดว่าประมาณเกือบ 20 คน
ด้าน นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณี /นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด แม่ฮ่องสอน ถูกกล่าวหาพัวพันการค้าบริการเยาวชนใน จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา
โดยเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งที่อยู่ในภาคราชการและภาคประชาชน โดยเฉพาะผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนมาให้ปากคำ รวมไปถึงเจ้าของรีสอร์ตที่ปรากฏเป็นข่าวและมีการอ้างถึงด้วย แต่เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนหาข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดผลการสอบสวนได้ เพราะอาจมีประเด็นที่ต้องสอบปากคำเพิ่มเติมต้องใช้เวลา ถือว่ายังอยู่ในขั้นตอนและกระบวนการตรวจสอบภายใน 30 วัน ยืนยันว่าจะเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ก่อนรายงานให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รับทราบ โดยทุกอย่าง ตรวจสอบและทำทุกอย่างไปตามขั้นตอน
ยืนยันว่าจะไม่มีการสอบเพื่อช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน ผิดถูกว่ากันไปตามพยานหลักฐาน หากสามารถชี้แจงข้อสงสัยได้อย่างชัดเจนก็ไม่มีปัญหา
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเป็นไปได้ กรณีจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ย้ายผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน หลังถูกพาดพิงว่าซื้อบริการเด็ก
ว่า การจะย้ายข้าราชการออกจากพื้นที่สามารถใช้กฎหมายปกติได้
แต่กระบวนการจะมีความซับซ้อนและใช้เวลา กรณีการย้ายข้าราชการนั้นได้ออกมาตรา 44 รองรับไว้รองรับแล้ว ดังนั้นเมื่อมีความจำเป็นก็จะสามารถออกคำสั่งได้ทันทีเป็นการอาศัยอำนาจนายกรัฐมนตรีในการออกคำสั่ง
ส่วนควรจะใช้คำสั่งดังกล่าวกับผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนหรือไม่นั้น ต้องรอดูการรายงานจากส่วนกลางก่อน ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานเข้ามา ทราบว่ายังอยู่ในระหว่างตรวจสอบ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความจำเป็นต้องโยกย้ายเพื่อประโยชน์การสอบสวนก็สามารถเสนอเรื่องเข้ามาได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าภายใน 2 วันนี้จะมีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว

















