แม่ค้าหมู ในจังหวัดชลบุรี ถูกแก๊งทวงหนี้ทุบกระจกรถแตกเสียหาย หวังข่มขู่ทวงดอกเบี้ย และ ยังข่มขู่ ถ้าไม่ใช้หนี้ จะฉุดลูกสาวไปข่มขืน
ภาพจากกล้องวงจรปิด หน้าบ้าน นางกันหา ประสงค์ อายุ 49 ปี เจ้าของเขียงหมูในจังหวัดชลบุรี จับภาพ 2 คนร้าย ขี่จักรยานยนต์สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ใส่หมวกกันน็อคเต็ม เข้ามาจอดข้างรถเก๋งโตโยต้า วีออสสีดำ ของนางกันหา ที่จอดไว้ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร ไร่กล้วย จากนั้นคนร้ายใช้ท่อนเหล็ก ตีเข้าที่กระจกหน้ารถ 2 ครั้ง และ กระจกข้าง 1 ครั้ง แล้วขี่รถหลบหนี
ผู้เสียหายเชื่อว่า คนร้ายคือแก๊งทวงหนี้นอกระบบ เพราะตนเองได้ไปค้ำประกันเงินกู้ ให้เพื่อน ทั้งหมด 3 คน ต่อมาเพื่อนทั้ง 3 ราย ได้หนี้หนี ไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ย ตนเองจึงต้องจ่ายคิดดอกเบี้ยแทนเพื่อนถึง ร้อยละ20 แต่ละวันต้องใช้เงินสดจ่ายดอกวันละ 5,900 บาท
และวันเกิดเหตุ ตนเองเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด ช่วงนั้นจึงไม่ได้จ่ายดอกเบี้ย แต่ตั้งใจว่า กลับมาจะนำเงินที่ได้จากการขายที่ดินไปปิดหนี้นอกระบบทั้งหมด ก็มาเกิดเหตุดังกล่าวก่อน ทำให้ครอบครัวต่างหวาดกลัว เนื่องจากกก่อนหน้านี้ ก็ถูกข่มขู่ว่า ถ้าไม่ใช้หนี้ จะฉุดลูกสาวไปข่มขืน ทำให้ตนเองกลัว จนต้องสั่งลูกปิดประตูบ้านอยู่ตลอดเวลาและลงทุนติดตั้งกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน เพื่อความปลอดภัย พร้อมอยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ตร.จับเจ้าแม่เงินกู้นครศรีธรรมราช พบเงินหมุนเวียนนับ 10 ล้าน
ขณะที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตำรวจกองบังคับการสืบสวนภูธรภาค 8 สนธิกำลังตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช และ ตำรวจภูธรทุ่งสง เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ที่ อำเภอทุ่งสง พร้อม จับกุมตัว นางอัญชลี แซ่ลิ่ง หรือเจ๊ลี่ อายุ 60 ปี และ นายจารุวัฒน์ สัจกุล อายุ 33 ปี สองแม่ลูก ตามหมายศาลในข้อหาร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด จากการตรวจค้นพบบัตรเอทีเอ็มลูกหนี้หลายร้อยใบ เอกสารทางการเงินของลูกหนี้ และ สัญญากู้ยืมหลายฉบับ ซึ่งมีการลงลายมือชื่อ โดยไม่มีการใส่วงเงิน พร้อมสมุดทะเบียนรถยนต์และรถจักรยานยนต์อีกจำนวนมาก
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบว่า มีเงินหมุนเวียนจำนวนหลายสิบล้านบาท ขณะที่ ผู้ต้องหาอ้างว่า เป็นเงินที่ได้เงินมาจากมรดก จากการขายเหมืองแร่ของสามีที่เสียชีวิตไป จึงนำมาลงทุนปล่อยเงินกู้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจ ระบุว่า อาจมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งมีทั้งข้อหายักยอก รวมทั้งการปลอมแปลงเอกสาร ตามหลักฐานที่พบจำนวนมาก และทางผู้ต้องหายังไม่ให้ความร่วมมือในการสอบปากคำมากนัก จากนี้จะเร่งสอบสวนขยายผลเส้นทางการเงิน ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินด้วย