สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตั้ง 5 คณะกรรมการระดับสูงการตรวจสอบโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ คาดทราบรายละเอียดภายใน 1 สัปดาห์ พร้อมเซ็นสัญญาได้ระหว่างการตรวจสอบ

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. พร้อมคณะกรรมการเทียบเท่าระดับรองผู้อำนวยการสำนัก และผู้ช่วยทั้งหมดจำนวน 5 คน เดินทางมายังกองบัญชาการกองทัพเรือ (วังเดิม) เข้าพบ พลเรือเอกณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เพื่อขอรายละเอียดสัญญาการจัดซื้อโครงการเรือดำน้ำจากประเทศจีน

โดยผู้ว่าฯ สตง. ยืนยันว่า ภายใน 1 อาทิตย์จะมีความชัดเจนในเรื่องของการตรวจสอบการจัดซื้อเรือดำน้ำมากขึ้น โดยจะตรวจสอบย้อนหลัง ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ พร้อมคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ทั้งหมดนำเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวชี้แจงแก่ สตง ซึ่งจะมีการตรวจสอบเรื่องเหตุผลและความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำ งบประมาณที่ใช้ในโครงการ ความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณ รวมทั้งการนำข้อมูลจากการชี้แจงของกองทัพเรือ ข้อสังเกตของสื่อมวลชน รวมถึงข้อสังเกต 48 ข้อ ของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย มาพิจารณาร่วมด้วย และหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบที่กองทัพเรือทุกวัน เนื่องจากเป็นเอกสารลับไม่สามารถนำออกจากพื้นที่ได้

ผู้ว่าฯ สตง. ยืนยันว่า ไม่ได้มาตรวจสอบเพื่อการันตีหรือรับรองให้หน่วยงานใด ย้ำไม่เกรงกลัวอิทธิพลทางการเมือง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง เพราะเป็นการทำสัญญานะหว่างรัฐบาลและรัฐบาล หรือ จีทูจี ญึ่งที่ผ่านมามักเกิดการทุจริต ด้วยไม่มีสินค้าชัดเจนเช่นครั้งนี้ โดยหากเป็นงบประมาณผูกพันธ์ข้ามปี สตง. จะทำการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะมีการส่งมอบตามสัญญา โดยระหว่างการตรวจสอบกองทัพเรือสามารถเซ็นสัญญาได้ แต่ หากพบข้อสังเกตที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน จะรีบแจ้งให้กองทัพเรือทราบ และเสนอให้สื่อมวลชนเพื่อกระจายข่าวสารต่อไป

ทั้งนี้ สตง. เคยทำการตรวจสอบการจัดหา ยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือมาแล้วหลายครั้ง อาทิ เรือฟริเกต เรือดำน้ำที่เคยจะสั่งซื้อจากเยอรมันจำนวน 6 ลำ และเรือตรวจการณ์ โดยการเข้าตรวจสอบครั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบหมายให้ พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ พร้อมคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ทั้งหมดนำเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวชี้แจงแก่ สตง.