ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหารนคร ลงพื้นที่เยาวราช ตรวจดูความพร้อมโครงการ "Street Food" เพื่อหวังยกระดับอาหารริมทางของไทย พร้อมเตรียมปิดถนนเยาวราช และ ข้าวสาร เพื่อจัด "สตรีทฟู้ด" ดึงนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามารับประทานอาหารไทย เริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการปลายเดือน พ.ค.นี้
พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการ "Street Food" ถนนเยาวราช หลังจากกรุงเทพมหานคร ร่วมมือกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้ถนนเยาวราชและถนนข้าวสารเป็นพื้นที่นำร่องในโครงการ Street Food เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาใช้บริการอาหารที่ถูกสุขลักษณะ สะอาดปลอดภัย และราคาเป็นมาตรฐาน หลังจากสำนักข่าวต่างประเทศได้ยกย่องให้ร้านอาหารริมทางของไทยที่ดีที่สุดในโลกถึง 2 ปีซ้อน (2559-2560)
พลตำรวจเอกอัศวิน กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมอาหารริมทางในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก จึงกำหนดจุดนำร่องในถนนเยาวราชและถนนข้าวสาร เนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมในพื้นที่จำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างตั้งใจมาเพื่อการรับประทานอาหารไทยประเภทต่าง ๆ
โดยถนนเยาวราช มีกำหนดการจัดระเบียบ ตั้งแต่แยกเฉลิมบุรี ถึงแยก ราชวงศ์ ระยะทางยาว 600 เมตร โดยจะปิดการจราจรบนถนน 1 ช่องจราจร ด้านซ้ายสุด เพื่อเป็นพื้นที่ให้ตั้งวางแผงค้า และ เป็นช่องทางเดินสัญจรให้แก่นักท่องเที่ยว ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น. ทุกวัน แต่ผู้ค้าจะสามารถตั้งวางแผงค้าได้ในเวลาที่กำหนดเท่านั้น โดยห้ามไม่ให้ผู้ค้าล้างจาน ทิ้งเศษอาหาร และน้ำเสีย ลงท่อระบายน้ำอย่างเด็ดขาด ส่วนขยะต่าง ๆ ก็จะต้องคัดแยก และ ทิ้งอย่างเป็นระบบ ทุกร้านค้าจะต้องติดป้ายแสดงราคาอาหารอย่างถูกต้อง โดยต้องจัดทำป้ายทั้งในระบบภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมาก
พลตำรวจเอกอัศวิน กล่าวว่า สำหรับถนนข้าวสาร จะจัดสตรีทฟู้ดรูปแบบเดียวกับถนนเยาวราช แต่จะปิดถนนข้าวสารตลอดแนวเพื่อจัดทำเป็นถนนคนเดิน ตั้งแต่เวลา 18.00-02.00 น. ทุกวัน โดยรูปแบบการจัดระเบียบถนนสตรีทฟู้ดทั้ง 2 แห่ง จะเริ่มการปฏิบัติอย่างเป็นทางการในปลายเดือน พ.ค.นี้ และนอกเหนือจากถนนเยาวราช และข้าวสารแล้ว กทม.จะตรวจสอบจุดอื่นๆ เพื่อวางแนวทางจัดระเบียบเป็นสตรีทฟู้ดต่อไป โดยจุดที่วางแผนดำเนินการจากนี้คือบริเวณริมคลองโอ่งอ่าง เพราะมีพื้นที่เหมาะสมในการจัดทำเป็นถนนคนเดินมากที่สุด