รองผู้กำกับการ ที่ถูกกล่าวหาว่า ซื้อประเวณีเด็กแม่ฮ่องสอน เข้ามอบตัวแล้ว ขณะที่ทางตำรวจ เร่งตรวจสอบภาพชายสูงวัย คล้ายข้าราชการระดับสูง นั่งคลอเคลียกับเด็กสาวที่มีรอยสักรูป "นกฮูก"

มีรายงานว่า พันตำรวจโท มงคล ปันตี รองผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ หนึ่งในตำรวจที่ถูกออกหมายเรียก ให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ซื้อประเวณีเด็กในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เบื้องต้น เจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และจะขอไปให้การให้ชั้นศาลเท่านั้น ส่วนกรณีที่ไม่มารายงานตัว รับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น เนื่องจากติดภารกิจไม่ได้หลบหนีไปไหน

อย่างไรก็ตาม หลังจากให้ปากคำเสร็จ ทางพนักงานสอบสวน ได้อนุญาตให้พันตำรวจโทมงคล กลับไปก่อนได้ เนื่องจากขณะนี้ อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามคำสั่งของพลตำรวจเอก ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ส่วนกรณีที่สังคมออนไลน์ มีการส่งต่อภาพชายสูงวัยหน้าตาคล้ายกับข้าราชการระดับสูงคนหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถ่ายรูปคลอเคลียอยู่กับหญิงสาว ที่มีรอยสักนกฮูกที่หน้าอกนั้น

ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบลักษณะใบหน้า และเด็กหญิง ที่ถ่ายภาพคู่ในรูปภาพ พร้อมกับตรวจสอบรอยสักนกฮูกที่หน้าอกหญิงในภาพว่า จะเป็นนกฮูกที่เป็นกลุ่มเดียวกับรอยสักแก๊ง "นกฮูกน้ำเพียงดิน" หรือไม่

โดยเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เปิดเผยว่า จะต้องตรวจสอบโดยละเอียด เพราะภาพในสังคมออนไลน์ บางครั้งก็เชื่อถือไม่ได้ เพราะทำตัดต่อภาพกันได้แนบเนียนมาก ทั้งนี้ แม้ภาพในสื่อออนไลน์ จะใช้เป็นพยานศาลไม่ได้ แต่ตำรวจก็ใช้เป็นแนวทาง ในการตรวจสอบเรื่องนี้ได้เหมือนกัน

ด้านพลตำรวจตรีชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 4 เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบนโยบายให้กับพนักงานสอบสวนที่ทำคดีดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน

โดยเบื้องต้นพบว่า มีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มากกว่าที่ออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ มีหลากหลายอาชีพ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ในการหาพยานหลักฐานให้รัดกุม

แต่ขอยืนยันว่า คดีนี้ไม่ยุ่งยาก และไม่กังวลว่า จะเกี่ยวข้องกับข้าราชการหรือไม่ เพราะยึดตามหลักฐาน ส่วนสำนวนคดี ทั้ง 37 สำนวน เชื่อว่า จะสรุปได้ทันก่อนครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหา 7 ผัดแน่นอน

สำหรับกรณีของข้าราชการครูอีก 1 คน ที่ถูกออกหมายเรียกแล้ว ยังไม่เข้ามารายงานตัวนั้น นายอดุลย์ กองทอง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 ซึ่งดูแลพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ออกมาเปิดเผยว่า

ขณะนี้ครูคนดังกล่าว ได้ย้ายมาเป็นครูผู้ช่วยที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี และยังไม่มีการสั่งพักราชการแต่อย่างใด เพราะถือว่า ยังไม่มีความผิด เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการออกหมายเรียก จากทางตำรวจเท่านั้น โดยครูคนดังกล่าว สามารถใช้สิทธิ์ลาราชการ กับทางโรงเรียนต้นสังกัด เพื่อเดินทางไปให้ปากคำตามหมายเรียกได้

แต่ถ้าถึงขั้นมีการออกหมายจับ หรือมีพยานหลักฐานชัดเจนแล้ว ตามขั้นตอนปฎิบัติ ทางตำรวจจะแจ้งเรื่องมายังผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ครูคนดังกล่าวปฎิบัติหน้าที่อยู่ และทางผู้ว่าฯจะแจ้งต่อมายังต้นสังกัดในพื้นที่ เพื่อให้มีการสั่งให้พักราชการครูคนดังกล่าวทันที

ขณะที่กรณีของจ่าสิบเอกขัตพันธ์ บุตรสอน เจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ในพื้นที่นั้น

พันเอกพีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานพาดพิงชัดเจนว่า จ่าสิบเอกขัตพันธ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่ ต้องรอให้ทางตำรวจดำเนินการสอบสวน ตามกระบวนการยุติธรรมก่อน แต่ กอ.รมน. พร้อมสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือกับทางตำรวจอย่างเต็มที่ หากต้องการความช่วยเหลือสามารถมาประสานมาได้

ส่วนการย้ายจ่าสิบเอกขัตพันธ์ ให้กลับไปประจำการที่ต้นสังกัด กองพันทหารราบที่ 5 กรมทหารราบที่ 7 นั้น เนื่องจากจ่าสิบเอก ขัตพันธ์ โพสต์ข้อความล้อเลียนคำขวัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร เพราะเป็นการหมิ่นประมาท และผิดประมวลวินัยทหาร นำความเสื่อมเสียมาสู่หน่วย จึงได้รับโทษ ให้พ้นออกจากหน่วย และส่งคืนต้นสังกัด

เบื้องต้นบทลงโทษ จะมีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กัก ขัง จนไปถึงงดบำเหน็จ หรือร้ายแรงสุดคือการให้ออกจากราชการ ซึ่งหลังจากนี้ จะติดตามการตั้งกรรมการสอบสวนของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว โดยทาง กอ.รมน. ขอยืนยันว่า จะให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน

พ.ต.ท.ซื้อกามเด็กแม่ฮ่องสอนแอบเข้ามอบตัว-รับข้อหาคุมฝากขังแล้ว