ผู้นำกองทุนฯสตรี ออกโรงโต้ปลัดคนหนึ่งที่ออกมากล่าวหา ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนว่า มีการนำสาวๆ มาให้บริการงานเลี้ยงต้อนรับ ขณะที่ทางชุดสืบสวน เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีเด็กอีก 7 คน
ชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 และ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ในคดีค้าประเวณีเด็กสาว ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีค้าประเวณีเด็ก ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผล และรวบรวมพยานพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณีในพื้นที่ เพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 7 คน
โดยทางเจ้าหน้าที่ ต้องดำเนินการรวบรวมพยาน เพื่อยืนยันตัวบุคคล และมีน้ำหนักเพียงพอ เพื่อนำเสนอให้ศาลพิจารณาอนุมัติหมายจับได้
ส่วนกรณีมีภาพชายสูงอายุกับเด็กสาว มีรอยสักรูปนกฮูกในสภาพเปลือยกาย หลุดทางไลน์จำนวน 3 รูปนั้น ทาง ตำรวจ ปคม.กำลังเร่งตรวจสอบว่า เป็นบุคคลใด และจนถึงขณะนี้ บุคคลในภาพ ยังไม่มีการประสานเข้าพบตำรวจแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ยังไม่มีการดำเนินคดีขณะนี้นั้น เนื่องจากต้องดำเนินการตรวจพยานหลักฐานให้รอบคอบรัดกุมที่สุด
อีกทั้งผลการสอบสวนของตำรวจ กับคณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงมหาดไทย ยังมีผลสอบแย้งกันอยู่ และที่ยังไม่มีการแจ้งข้อหา หรือเอาผิดนั้น เป็นเพราะต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อน
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า ไม่มีอำนาจใดๆ แทรกแซง หรือกดดันการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด มีตำแหน่งใหญ่โตหรือไม่ หากพิสูจน์ได้ว่า มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
ส่วนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน นางชุณห์พิมาน เชษฐ์เมทินี ผู้ทรงคุณวุฒิกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยกลุ่มสตรีและเด็กนักเรียนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มาร่วมกันแถลงข่าวตอบโต้ปลัดอำเภอคนหนึ่ง
กรณีที่ปลัดคนดังกล่าว ไปให้สัมภาษณ์ฝ่านรายการทีวี พาดพิงถึงนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า ในการจัดงานเลี้ยงต้อนรับผู้ว่าฯ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2559 มีการเลี้ยงสุราแล้วนำเด็กสาว มาทำหน้าที่บริการ ทำให้ผู้จัดงาน ครู อาจารย์โรงเรียน และประชาชนชาวแม่ฮ่องสอน ได้รับความเสียหาย
โดยนางชุณห์พิมาน กล่าวว่า การกล่าวอ้างของปลัดคนดังกล่าว ไม่เป็นความจริง และตนขอยืนยันว่า งานที่จัดกันนั้นเป็นงานแบบประเพณีวัฒนธรรมชาวไทยใหญ่ ไม่มีการเลี้ยงสุราแม้แต่ขวดเดียว
และผู้ที่มาเสิร์ฟ หรือคอยดูแลแขกในงานนั้น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสตรีของสมาชิกเหล่ากาชาด รวมไปถึงพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ไม่มีการนำเด็กสาวมาเสิร์ฟให้บริการ ตามที่ถูกพาดพิงแต่อย่างใด
แต่หากปลัดคนดังกล่าว มีหลักฐานที่ว่า ในงานมีการเลี้ยงสุรา และมีเด็กสาวมาคอยบริการ ตนก็ขอท้าให้นำหลักฐานออกมาพิสูจน์ยืนยัน อย่ากล่าวหาลอยๆ เพราะจะทำให้โรงเรียน ผู้จัดงาน ข้าราชการ และประชาชนเสียชื่อเสียงไปด้วย