หญิงพิการวัย 54 ปี ชาวสวนสุพรรณบุรี ร้องเรียนดีเอสไอ หลังนำที่ไปจำนองกับนายทุน แต่ไม่เคยได้เงิน แถมยังถูกสวมสิทธิ์ จนโดนขับไล่ออกจากที่ดินของตัวเองด้วย

นายพิรุณ วังงาม พาพี่สาววัย 54 ปีของตนเอง ซึ่งเป็นหญิงพิการ เดินทางจากอำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ขอความเป็นธรรมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ หลังพี่สาวถูกสวมสิทธิ และกำลังถูกดำเนินไล่ออกจากที่ดินของตัวเอง

นายพิรุณ เล่าว่า เมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา พี่สาวได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ สาว (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) และถูกชักชวนให้นำที่ดินไปจำนองกับนายฟ้อน กรัดเพ็ชร์ พี่สาวจึงได้ไปทำสัญญากู้เงินกับนายฟ้อน เพื่อนำเงินมาลงทุนเลี้ยงเป็ด

ซึ่งในสัญญาระบุว่า นายฟ้อน จะให้กู้ยืมเงินเป็นจำนวน 4 แสนบาท ทั้งๆ ที่พี่สาวต้องการเพียง 2 แสนบาทเท่านั้น และเมื่อถึงกำหนด นายฟ้อนไม่ได้นำเงินมาให้พี่สาว จนระยะเวลาผ่านไปหลายเดือน พี่สาวของตนจึงโทรศัพท์ไปขอยกเลิกสัญญาจำนองที่ดิน

แต่ในวันนัด ที่จะไปยกเลิกสัญญา นายฟ้อน กลับนำที่ดินของพี่สาวตน ไปจำนองกับผู้รับจำนองคนใหม่ได้เงินมา 5 แสนบาท และไม่ได้นำเงินมาให้พี่สาวตน แต่อย่างใด จนกระทั่งเมื่อปี 2557 พี่สาวของตน ก็ถูกผู้รับจำนอง ฟ้องร้องให้จ่ายเงินคืน

เมื่อต่อสู้คดี เสร็จสิ้นทั้ง 3 ศาล พี่สาวถูกศาลพิพากษา ให้ต้องชำระเงินประมาณ 7 แสนบาท ภายในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้

และหากไม่ชำระ จะถูกบังคับไล่ออกจากที่ดิน ทำให้พี่สาวต้องประสบกับความยากลำบาก ในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก เพราะมีเพียงที่ดินผืนนี้เท่านั้น ที่ใช้ในทำมาหากินได้

ด้านพันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า เบื้องต้นดีเอสไอ จะรับเรื่องร้องทุกข์ไว้ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวทันที

สาวพิการร้องดีเอสไอถูกหลอกเซ็นจำนองที่ดินเป็นหนี้ 7 แสน-ถูกฟ้องไล่ที่