ที่ประชุมครม.อนุมัติวงเงิน 4,300 ล้านบาทสร้างบ้านราคาถูกให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยรวม 6 พันยูนิต ส่วนที่ประชุมคสช.เห็นชอบออกคำสั่ง มาตรา 44 อีก 4 ฉบับ เตรียมขยายเวลาการสรรหา คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน

พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคสช.ว่า ที่ประชุม คสช.เห็นชอบในหลักการที่จะออกคำสั่งหัวหน้า คสช. 4 เรื่อง คือ 1.เรื่องการส่งเสริมการจัดการศึกษาโดยสถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ 2.การพัฒนาการศึกษาของประเทศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3.การดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และเรื่องที่ 4 คือ การแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 23 เรื่องการสรรหาคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งจำเป็นต้องขยายระยะเวลาการสรรหาออกไป เพื่อหาผู้ที่มีคุณสมบัติมาดำรงตำแหน่ง รวมทั้งจะระบุให้ชัดเจนว่า กรณีที่องค์กรอิสระจะส่งตัวแทนเข้ามาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการสรรหา จะต้องเป็นองค์อิสระที่ไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการที่มาสรรหา หลังจากก่อนหน้านี้ คตง.ตีความว่า สามารถส่งตัวแทนเข้ามาในฐานะองค์กรอิสระได้ จึงต้องแก้ไขให้ชัดเจน

ครม.เห็นชอบ 1,314 ล้านบาท ปรับปรุงระบบการประปา

ที่ประชุมครม.เห็นชอบให้การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนา ปี 2560 วงเงินลงทุนรวม 1,314 ล้านบาท รวม 6 โครงการเพื่อปรับปรุงระบบประปาทั้งระบบโดยจะมีการก่อสร้างระบบน้ำดิบ ระบบผลิตประปา ระบบจ่ายน้ำ ประกอบด้วย โครงการปรับปรุงขยายกปภ. สาขาศรีสะเกษ-อุทุมพรพิสัย-ทุ่งชัย-ห้วยทับทัน และ กปภ.สาขาน่าน โครงการปรับปรุงขยายเพื่อรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ กปภ.สาขากาญจนาบุรีและนครพนมและโครงการปรับปรุงกิจกรรมประปาสาขาภูเขียว (โอโล) และสาขาเชียงคาน (บุฮม)

ครม.อนุมัติ 4.3 พันล้านบาทสร้างบ้านคนจน 6พันหน่วย

ที่ประชุมครม.ยังมีมติเห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติ (กคช.)จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2559 ภายใต้แผนพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ปี (59-68) จำนวน 21 โครงการ รวม6,129 หน่วย วงเงินลงทุนรวม 4,322 ล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดหาและเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ 3,360 ล้านบาท ใช้เงินงบประมาณอุดหนุน 468 ล้านบาท และใช้ทุนจากรายได้ของ กคช. 493 ล้านบาท เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยรองรับความต้องการมีบ้านของผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ราคาบ้านชั้นเดียว ห้องชุด ตั้งแต่ 564,000-700,000 บาทต่อหน่วย และราคาบ้านเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ 1 ล้าน 4 แสน บาท ถึง 2ล้าน 5 แสนบาท เพื่อตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางให้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน ซึ่งในแผนยุทธศาสตร์ 10 ปี จะทำให้มีผู้ที่มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยประมาณ 1 ล้าน 7 แสนครัวเรือน

ธอส.เตรียมปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท

ด้าน นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.เตรียมออกสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายรัฐบาล โดยคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก อัตราเฉลี่ย 2% ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรกของธนาคารในปัจจุบันที่เฉลี่ย 3.4% หรือ ปรับลดดอกเบี้ยลงประมาณ 0.75% โดยเตรียมวงเงินปล่อยสินเชื่อ 1 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเปิดให้ขอสินเชื่อได้ภายในเดือน พ.ค.นี้ ธนาคารกำหนดวงเงินปล่อยกู้รายละไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องกู้ไปเพื่อซื้อบ้านหลังแรกก็ได้

เตรียมออกค่าสนับสนุนคนจนเลี้ยงดูบุตร

ที่ประชุม ครม. ทางนายกฯ ยังได้สอบถามถึงยอดผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเมื่อวานนี้ (15พ.ค.) เป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้ลงทะเบียน โดยกระทรวงการคลัง ระบุว่า มีมาลงทะเบียนแล้วกว่า 14 ล้านคน โดยยืนยันว่า การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยรอบนี้ จะไม่มีการจ่ายเงินให้ผู้ลงทะเบียนโดยตรง แต่จะเป็นการช่วยลดค่าน้ำ ค่าไฟและค่าพาหนะ หรือ อาจสนับสนุนค่าเลี้ยงดูบุตรให้ผู้มีรายได้น้อย เพื่อสนับสนุนให้คนไทยมีบุตรเพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้ประเทศกำลังประสบภาวะขาดแคลนแรงงาน