แม่ทัพภาค ที่ 4 เปิดฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเจ้าหน้าที่ รปภ.ห้างต่างๆและกำลังประชาชน ในจังหวัดปัตตานี เพื่อสัดกั้นการก่อเหตุร้าย พร้อมเผย ออกหมายจับคนร้ายเหตุระเบิดบิ๊กซีปัตตานีแล้ว 11 คน เตรียมนำผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ที่หอประชุม ที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมให้ความรู้ในการรักษาความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเจ้าหน้าที่ รปภ. และให้ทุกคนเฝ้าระวังสังเกต และสกัดกั้นการเตรียมการก่อเหตุในพื้นที่ ทำให้พื้นที่เมืองปัตตานีมีความปลอดภัยสูงสุด
จากนั้น พลโท ปิยวัฒน์ เปิดเผยถึงความความคืบหน้า กรณีเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดห้างบิ๊กซีปัตตานีว่า ขณะนี้ได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ลอบวางระเบิดห้างบิ๊กซีปัตตานีรวม 9 คน และ ออกหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 2 คน รวมเป็น 11 คน
ขณะนี้กำลังประสานกับเจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปสู่การทำแผน ประกอบคำรับสารภาพการก่อเหตุ โดยจะเริ่มตั้งแต่การไปเอาโทรศัพท์เจ้าของรถมา และลวงออกไปทำร้ายจนเสียชีวิต จนกระทั่งนำรถไปประกอบระเบิด เพื่อนำไประเบิดห้างบิ๊กซี ซึ่งเชื่อว่า คนที่ลงมือก่อเหตุเป็นกลุ่มเดิมทั้งหมด ที่พยายามก่อเหตุรุนแรงมาโดยตลอด ซึ่งตราบใดที่ยังมีการทำร้ายประชาชน หรือเจ้าหน้าที่ ตนก็จะจับทุกกรณี
พลโท ปิยวัฒน์ กล่าวว่า ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ทั้ง 8 คน ทางเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างติดตามและสืบหาตัว คิดว่า จะได้ตัวในเร็วๆนี้ ซึ่งทั้ง 8 คน ยังอยู่ในพื้นที่และอาศัยอยู่ตามเชิงเขา ในส่วนของ นายก อบต.หนองจิก ที่ถูกควบคุมตัวก่อนหน้านี้ ได้ทำการปล่อยตัวไปแล้ว แต่ยังอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่
แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวเพิ่มเติม ถึงการติดตั้งกล้องซีซีทีวีในพื้นที่ว่า หากห้างร้านใด ติดตั้งกล้องซีซีทีวี ทางเจ้าหน้าที่จะปักธงสีเขียวให้ แต่หากห้างร้านใด ไม่ยอมติดตั้งกล้องซีซีทีวี ก็จะทำการปักธงสีเหลือง หรือสีแดง เพื่อให้ประชาชนได้รู้ว่า ห้างนี้ยังมีความปลอดภัยในพื้นที่ไม่เต็ม 100% ซึ่งเรื่องการติดตั้งธงเป็นแค่การแสดงให้ประชาชนได้รู้ว่า พื้นที่ใดปลอดภัย หรือพื้นที่ใดไม่ปลอดภัย
ขณะที่ช่วงบ่าย วานนี้ (17พ.ค.) ที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีปัตตานี นายวีระนันนท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานพิธีมอบเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนทำให้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์เสียหายกว่า 50 คัน มีผู้บาดเจ็บ 61 คน และมีบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง โดยผู้ที่ได้รับการเยียวยามีทั้งหมด 149 คน โดยได้เยียวยาในเบื้องต้น 37 คน และจะทยอยเยียวยาต่อไป ส่วนผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตานีขณะนี้มี 4 คน
นายวีระนันนท์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าหลงกลผู้ก่อเหตุ ที่พยายามจะทำให้เกิดความแตกแยก ดังนั้นทุกคนต้องรวมพลัง จับมือกันช่วยเป็นหูเป็นตา เพื่อช่วยกันทำให้พื้นที่กลับมาสงบสุข
ขณะเดียวกัน ในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ส่วนหน้า ที่มีพลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการประชุม ได้เห็นชอบให้มีผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจประจำประเทศมาเลเซีย 2 คน คือ ผู้ช่วยทูต กับรองผู้ช่วยทูต
เพื่อทำหน้าที่ช่วยประสานงานด้านการข่าว ปัญหาด้านอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งงานด้านความมั่นคง โดยให้กองการต่างประเทศของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คัดสรรบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้ช่วยทูตตำรวจประจำประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ ต้องมีคุณสมบัติ คือ อยู่ในตำแหน่งรองผู้บังคับการ ยศพันตำรวจเอก / พูดภาษาอังกฤษได้ / มีความรู้ความสามารถ / เข้าใจเรื่องงานและหน้าที่ ก่อนจะเสนอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป