เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเข้าบ้านเรือน ถนน ไร่นาของชาวบ้านเสียหายจำนวนมาก
ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลลงสู่หมู่บ้านหลายแห่งบริเวณเชิงดอยอินทนนท์ ส่งผลให้น้ำท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตรเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะสวนลำไยในตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จมอยู่ใต้น้ำหลายสิบไร่ เนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำออกได้
นอกจากนี้ ฝนที่ตกสะสมมาหลายวัน ยังทำให้ดินอ่อนตัว จนเกิดดินถล่มขวางทางหลวงชนบทสายบ้านแปะ ระหว่าง กม. 5-6 ล่าสุด เทศบาลตำบลบ้านแปะ ประสานทางหลวงชนบท นำเครื่องจักรเข้าเคลียพื้นที่เพื่อให้เปิดเส้นทางโดยเร็วที่สุดแล้ว
ขณะที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ต้องสั่งปิดน้ำตกทั้งสองแห่ง คือน้ำตกแม่กลาง และน้ำตกแม่ยะ เป็นวันที่ 2 แม้ว่า ระดับน้ำในน้ำตกทั้งสองแห่งจะลดลง เนื่องจากฝนหยุดตกตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากกระแสนำยังเชี่ยวแรง รอจนกว่าระดับน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ
เช่นเดียวกับที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้ดินจากดอยปู่เข้าบริเวณบ้านสบรวก ในพื้นที่ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน ซึ่งติดถนนเลียบแม่น้ำโขงตรงสามเหลี่ยมทองคำชายแดนไทย-เมียนมา-ลาว เกิดการสไลด์ตัวลงมา ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่ และกอไฝ่ไหลลงมาทับบนหลังคาของร้านค้าดังกล่าวประมาณ 1-2 ร้าน ที่ตั้งเรียงรายกับเนินดินของดอยดังกล่าว
นอกจากนี้ ต้นไม้ยังพัดทับสายไฟฟ้า และสายเคเบิ้ลโทรศัพท์เสียหาย โดยเฉพาะสายไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ตรงวัดพระธาตุดอยปู่เข้าเกิดขาดจำนวน 3 เส้น ส่งผลทำให้กระแสไฟฟ้าในบริเวณดังกล่าวดับตลอดทั้งวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าเชียงแสนระดมกำลังเข้าไปทำการซ่อมแซมเสาไฟฟ้า และสายไฟฟ้าดังกล่าวโดยใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง จึงต่อกระแสไฟฟ้าให้ใช้ได้ตามปกติ
ส่วนร้านค้าที่ประสบเหตุต้องปิดร้านเป็นการชั่วคราว เนื่องจากหน้าดินตรงเนินเขาที่อยู่เหนือร้านค้ามีความสูงชัน และ เสี่ยงต่อการสไลด์ตัวลงมาได้ทุกเมื่อ
ขณะที่นายคมสัน สุวรรณอัมพา ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง รายงานการตรวจวัดปริมาณน้ำฝนในรอบ 24 ที่ผ่านมา พบการเกิดฝนตกหนักสะสมในหลายพื้นที่ในจังหวัดเขตพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 4 จังหวัดภาคเหนือได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ / ลำปาง / ลำพูน / และแม่ฮ่องสอน
ซึ่งใน 4 จังหวัดข้างต้นของทุกพื้นที่ถือว่าน่าห่วงว่า อาจจะเกิดภัยทางธรรมชาติขึ้น ทั้งการเกิดน้ำป่าไหลหลาก / น้ำท่วมฉับพลัน / และดินโคลนถล่ม
ด้านอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ยังคงห้ามไม่ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าไปยังเขตน้ำตก หรือลงเล่นน้ำตก เนื่องจากยังคงมีน้ำป่าไหลหลากลงมาตามน้ำตกแจ้ซ้อน โดยปริมาณน้ำมีสีขุ่นเข้ม และบางจุดมีความเชี่ยวกราดจากบนยอดเขาสูงที่ยังคงมีฝนตกหนักลงมา ทั้งนี้ หากสถานการณ์คลายลงก็จะเปิดในส่วนของน้ำตกแจ้ซ้อนให้เข้าไปใช้บริการได้ตามปกติ
ส่วนที่ จังหวัดสุโขทัย ปริมาณน้ำจำนวนมากจากอ่างเก็บน้ำแม่มอก อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ได้ไหลมายัง อำเภอทุ่งเสลี่ยม และไหลลงสู่อำเภอสวรรคโลก จนทำให้บริเวณภายในวัดโบสถ์ หมู่ 5 ตำบลเมืองบางขลัง อำเภอสวรรคโลก ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1เมตร และไหลบ่าเข้าท่วมไร่นา รวมทั้งบ้านเรือนของชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลราวต้นจันทร์ อำเภอศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชน รวมทั้งคอกเลี้ยงวัว ของชาวบ้านถูกน้ำท่วมสูง จนต้องต้อนวัวที่เลี้ยงไว้ ไปผูกไว้ตามกองดินที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง
นอกจากนี้ น้ำยังเอ่อล้น และไหลข้ามถนนสายเมืองบางขลัง - ดอนโก้ หมู่ 3 ตำบลราวต้นจันทร์ อำเภอศรีสำโรง เป็นทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่แขวงการทางต้องนำไม้ไผ่มาตอกบริเวณไหล่ทางทำเป็นแนว เพื่อบอกระยะขอบถนนตลอดระยะทางที่ถูกน้ำท่วม เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านที่ต้องสัญจรไปมาผ่านถนนที่ถูกน้ำท่วม
ในขณะที่อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย หลังจากที่ฝนตกลงมามาอย่างหนัก ทำให้น้ำตามลำคลอง มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปลาหมอจำนวนมาก ว่ายออกมาเล่นน้ำฝนใหม่ ชาวบ้านในพื้นที่ จึงนำสวิงและกระชอนออกไปจับปลาหมอได้เกือบ 20 กิโลกรัม ซึ่งชาวบ้านบอกว่า หนึ่งปี จะสามารถจับปลาหมอที่ออกมาเล่นน้ำฝนได้เพียงไม่กี่ครั้ง
ด้านสถานการณ์น้ำท่วม ในเขตอำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร หน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร ได้นำข้าวกล่อง จำนวน 300 กล่อง น้ำดื่ม 200 โหล บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 80 ลัง เข้าพื้นที่น้ำท่วม เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่เดือดร้อนจากการขาดแคลนอาหาร และน้ำดื่ม
โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างขอบคุณ และต่างบอกว่า ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยเห็นน้ำท่วมหนักอย่างนี้มาก่อน จึงไม่มีการเตรียมตัวไว้ล่วงหน้า เมื่อน้ำมาเร็วจึงกลับตัวไม่ทัน ไม่ได้ซื้อน้ำและอาหารตุนไว้
โดยทางหน่วยอาสากู้ภัยฯ ต้องใช้รถ 2 แถว เข้าไปตามถนน และซอยที่อยู่นอกตัวเทศบาลออกมาเนื่องจากไม่สามารถใช้รถเล็ก นำอาหารและน้ำ ออกแจกจ่ายให้กับประชาชนที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขัง และไม่สามารถออกไปไหนได้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นก่อน
ทั้งนี้ นายธานี ธัญญาโภชน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้ประกาศเขตเทศบาลพรานกระต่าย และ ตำบลใกล้เคียงเป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อจะได้นำงบประมาณมาช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่กรุงเทพมหานคร พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษในจุดเฝ้าระวังที่เป็นพื้นที่ต่างระดับ หรือพื้นที่ก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ 14 จุด โดยจะติดตามสถานการณ์พยากรณ์อากาศ และการทำนายน้ำฝนจากข้อมูล เรดาห์ ที่แม่นยำ ซึ่งจะรู้ล่วงหน้าก่อนฝนตก ประมาณ 2 - 3 ชั่วโมงว่า จะมีฝนตกในพื้นที่ตรงไหน ระดับฝนหนักเบาเพียงใด ทำให้เจ้าหน้าที่ระบายน้ำ ซึ่งเตรียมการณ์เฝ้าระวังอยู่ในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถเร่งพร่องน้ำในคูคลองเพื่อเตรียมรับน้ำฝนได้ในทันที
ขณะเดียวกันเครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำ ที่เตรียมพร้อมไว้ก่อนหน้า ซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบให้ใช้งานได้อยู่ตลอดเวลา เมื่อเกิดฝนตกหนักก็จะสามารถเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้เร็วขึ้น
โดยจุดเฝ้าระวังน้ำท่วม จำนวน 14 จุด ที่เป็นพื้นที่ต่างระดับและพื้นที่ก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ ได้แก่ 1. บริเวณวงเวียนหลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ 2. บริเวณคลองเปรมประชากร ถนนแจ้งวัฒนะ 3. ช่วงหน้าตลาดพงษ์เพชร และ ปากซอยชินเขต 1 ถนนงามวงศ์วาน 4. ช่วงหน้าธนาคารกรุงเทพ ถนนรัชดาภิเษก / 5. ช่วงหน้าตลาดอมรพันธ์ และ แยกเกษตร ถนนงามวงศ์วาน 6. ช่วงแยกเตาปูน ถนนประชาราษฎร์สาย 2
7. ถนนนครไชยศรี ช่วงหน้าตลาดสามย่าน 8. ถนนพญาไท ช่วงหน้ากรมปศุสัตว์ 9. ถนนสนามไชย จากซอยเศรษฐการ - ถนนท้ายวัง และ รอบสนามหลวง 10. ถนนเจริญกรุง (แยกหมอมี) 11. ถนนสวนพลู จากสาทรใต้ - นางลิ้นจี่ 12. ถนนฉิมพลี จากถนนบรมราชชนนี - ทางรถไฟสายใต้ 13. ถนนเพชรเกษม จากคลองทวีวัฒนา - คลองราชมนตรี และ 14. ถนนบางขุนเทียน จากถนนพระรามที่ 1 - บางขุนเทียนชายทะเล
ปิดท้ายที่ กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศภาคเหนือและภาคกลาง มีปริมาณฝนลดน้อยลง แต่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกยังคงมีฝนตกหนักได้อีก 1 วัน
สำหรับภาคใต้ ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้