"ไอลอว์" ระบุ 3 ปี "คสช." รวมศูนย์อำนาจเบ็ดเสร็จ ทำลายการมีส่วนร่วมประชาชน พาประเทศไทยถอยหลัง และอาจทำให้กลับไปสู่วัฒนธรรมแบบประชาธิปไตยได้ยาก ขณะเดียวกัน คสช. เตรียมวีดิทัศน์สรุปผลการทำงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแถลงผลงานครบรอบ 3 ปีของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 22 พฤษภาคมว่า คสช.จะมีวีดิทัศน์ สรุปผลการทำงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา นำเสนอแก่สื่อมวลชน ส่วนการแถลงผลงาน คสช.จะนำไปรวมกับการแถลงผลงานรัฐบาลในเดือนกันยายน โดย นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้เลือกวันเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง
ขณะที่ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) เปิดเผยรายงานเรื่อง 3 ปี คสช. วางฐานอำนาจ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" เนื่องในวันครบรอบ 3 ปี การเข้าปกครองประเทศของ คสช. ว่า คสช. ใช้เวลา 3 ปีเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเมืองการปกครองของไทย ที่เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม คือ การดึงอำนาจการปกครองกลับไปอยู่ที่หน่วยงานราชการเป็นส่วนใหญ่ การตัดช่องทางการมีส่วนร่วมของประชาชน การใช้กฎหมายควบคุมเสรีภาพของสื่อมวลชน การสถาปนาอำนาจทหารในกระบวนการยุติธรรม และการใช้อำนาจสูงสุดอย่างที่ไม่มีกระบวนการใดสามารถตรวจสอบหรือถ่วงดุลได้ ซึ่งบรรยากาศเช่นนี้อาจทำให้ประเทศไทยกลับสู่วัฒนธรรมแบบประชาธิปไตยได้ยาก
ซึ่งรายงานนี้ เป็นการประมวลภูมิทัศน์ทางการเมืองภายใต้การปกครองของคสช. ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พบว่าคสช. ได้นำพาประเทศไทยย้อนกลับไปในยุคการปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจอีกครั้ง ผ่านการออกกฎหมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งรัฐธรรมนูญ 2560 พ.ร.บ.อย่างน้อย 239 ฉบับ คำสั่งที่อาศัยอำนาจมาตรา 44 อย่างน้อย 151 ฉบับ และประกาศและคำสั่งคสช. อีกจำนวนมาก
แต่อย่างไรก็ดี ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ภาคประชาชนก็พยายามเคลื่อนไหวสร้างพื้นที่การส่งเสียงตลอดมา ตั้งแต่การชุมนุม การทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ การใช้กลไกองค์กรอิสระ ศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้างแต่ก็เป็น 3 ปีที่สร้างประสบการณ์ให้ภาคประชาสังคมไทยอย่างมาก
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า 3 ปี ที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ต้องถามว่า เสียของหรือไม่ เพราะ สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน สื่อมวลชนถูกลิดรอนและจำกัด กระบวนการตรวจสอบทุจริตคอร์รัปชั่นหายไป และโอกาสในการมีคุณภาพชีวิตที่ดี ระบบเศรษฐกิจที่สร้างโอกาสหายไป ความเหลื่อมล้ำเพิ่มสูงขึ้น ขาดการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ไม่มีเครื่องมือที่จะนำพาประเทศไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์
ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านไปของ คสช. นอกจากปัญหาเก่าจะยังแก้ไขไม่ได้ ปัญหาใหม่และใหญ่เกิดขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจที่ติดลบทุกด้าน ทำให้ยิ่งอยู่นานคนจนยิ่งเพิ่มขึ้น