ตำรวจภูธรชะอำ จ.เพชรบุรี ล่อซื้อยาไอซ์ จากผู้ค้ายาเสพติด วัย 41 ปี โดยขณะเข้าจับกุม ผู้ต้องหาขับรถพุ่งชนตำรวจ บาดเจ็บ 1 นาย เบื้องต้น ขยายผลได้ผู้ต้องหาเพิ่ม 3 คน พร้อมของกลางจำนวนหนึ่ง

ตำรวจ สภ.ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ล่อซื้อยาเสพติดจาก นายอภิวัฒน์ สุวิทยาภรณ์ อายุ 41 ปี ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้เมียด ถนนเจ้าลาย ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ แต่ขณะเข้าล่อซื้อผู้ต้องหาได้ขับรถพุ่งชนตำรวจ ที่อยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยว ทำให้มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 นาย คือ ร้อยตำรวจเอก วรายุทธ พุ่มเจริญ รองสารวัตรสืบสวน สภ.ชะอำ และ ร้านก๋วยเตี๋ยวพังเสียหาย ก่อนที่จะถูกจับตัวไว้ได้

จากการ ค้นผู้ต้องหา พบยาไอซ์ จำนวนหนึ่ง อยู่ในถุงพลาสติกใสจำนวน 3 ถุง และ ถุงพลาสติกใสเปล่า จำนวน 20 ใบ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าพกสีดำเหน็บบริเวณเอว รถกระบะ 1 คัน และนำตัว นายอภิวัฒน์ ไปค้นบ้าน เลขที่ 11 ถนน นิติธร 2 ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ พบของกลางยาไอซ์ จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 0.55 กรัม รวมยาไอซ์ทั้งหมดหนัก 6.8 กรัม อุปกรณ์การเสพ จำนวน 1 ชุด กระดาษโพยรายชื่อลูกค้ายาเสพติดจำนวน 1 ชุด และจากการตรวจปัสสาวะพบมีสีม่วง

ผู้ต้องหา สารภาพว่า รับยาเสพติดมาจาก นายตี๋ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) บ้านอยู่ในหมู่บ้านหุบกะพง ซอย 3 ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จะซื้อมาครั้งละประมาณ 10 กรัม ราคา 13,000 บาท เพื่อมาแบ่งจำหน่าย จากนั้นในช่วงค่ำของวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังไปทำการขยายผลจับกุม นายตี๋ และ นายฐานนันดร คงเจริญ อายุ 42 ปี ได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลาง ปืนพกและกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งจับกุม เยาวชนหญิง อายุ 16 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 250 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 15 กรัม

ส่วนที่ จังหวัดชลบุรี นายนรเสฏฐ์ ศรีตะพัสโส นายอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยวางแผนล่อซื้อยาเสพติด ก่อนนำกำลังจู่โจมเข้าจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด ภายในบ้านเลขที่ 134/6 ซอยรุ่งโรจน์ หมู่ 4 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ

สามารถจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดได้ผู้ต้องหา ทั้งชายหญิง รวม 6 คน โดยเป็นทั้งผู้ค้าและผู้เสพ ซึ่งมีเยาวชนชายอายุไม่เกิน 18 ปี 2 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า ยาไอซ์ จำนวนหนึ่ง

สอบสวน นายภูวนาท หรือกาย ให้การรับสารภาพว่า ได้ยึดอาชีพค้ายาเสพติดมานาน เนื่องจากเป็นวิธีที่หาเงินง่าย โดยรับยาบ้าและยาไอซ์มาจาก นายบัณฑิต หรือบอล ซึ่งมีเครือข่ายใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยยาเสพติดจะถูกจำหน่ายให้กับเยาวชน และนักศึกษา เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีเงินซื้อ

เบื้องต้น ผู้ต้องหา สารภาพว่า ยึดอาชีพค้ายาเสพติดมานาน เนื่องจากเป็นวิธีที่หาเงินง่าย ซึ่งมีเครือข่ายใหญ่อยู่ที่จังหวัดนนทบุรี และจะจำหน่ายให้แก่เยาวชน นักเรียน นักศึกษา เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีเงินซื้อ

และที่ จังหวัดสมุทรปราการ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน นายอำเภอพระสมุทรเจดีย์ นำเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายตรวจสอบที่บริเวณสะพานปูน ภายในซอยชุมชนจักรยาน-ศรีทอง หมู่ 11 ตำบลในคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีวัยรุ่นจำหน่ายยาบ้าในพื้นที่

พบชายวัยรุ่น 2 คน ท่าทางมีพิรุจก่อนที่จะวิ่งหนีเจ้าหน้าที่และถูกจับกุมไว้ได้ คือ นายนิพล ประสี อายุ 25 ปี และ นายศักดิ์ดา วงศ์มั่น หรือ เป้ ชุมชนจักรยาน อายุ 24 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า และ ยาไอช์ จำนวนหนึ่ง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปค้นบ้านพักซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น อยู่บริเวณทางเข้าชุมชน ซึ่งเป็นบ้านของ นายศักดิ์ดา แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงนำตัวทั้ง 2 คน ไปสอบสวนเพิ่ม

โดย นายเป้ กล่าวว่า ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งแต่จะเปิดบ้านรับซ่อมรถจักรยานยนต์เฉพาะในกลุ่มเพื่อน ก่อนจะหันมาขายยาบ้า ซึ่งรับมาจาก นายบอย ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง มีบ้านพักอยู่บริเวณท้ายซอยสุขสวัสดิ์ 88 จะสั่งมาครั้งละ 200-400 เม็ด ในราคา 10,000 บาท เพื่อนำมาแบ่งขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นและคนในชุมชนในราคาเม็ดละ 100-120 บาท โดยใช้ชื่อว่า เป้ซอยจักรยาน และเป็นเอเย่นต์ยาเสพติดรายสำคัญที่ตำรวจต้องการตัว

ไปที่ จังหวัดลำพูน ทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัด ร่วมกับฝ่ายปกครอง นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น และจับกุม นายอนุชา ยศกาศ อายุ 35 ปี พ่อค้ายาบ้า ในสวนลำไย ตำบลทาขุมเงินอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน

แต่ขณะเข้าจับกุมนายอนุชา ไหวตัวทัน จึงได้วิ่งหลบหนีออกไปทางหลังบ้าน เข้าสวนลำไย พร้อมถือถุงยาบ้ากว่า 320 เม็ดไปด้วย และระหว่างที่วิ่งหนีได้พยายามกลืนกินยาบ้าเข้าปากไปด้วยเพื่อหวังทำลายหลักฐาน และเมื่อวิ่งไปได้ประมาณ 200 เมตร ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตามทัน และจับกุมไว้ได้ จากนั้นนายอนุชา ก็มีอาการชัก และคลั่ง เนื่องจากกลืนยาบ้าไปจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลไปล้างท้อง

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบของกลางยาบ้าเหลือเพียง 64 เม็ด เนื่องจากนายอนุชากินไปจนเกือบหมด (256 เม็ด) นอกจากนี้ยังพบยาไอซ์ จำนวนหนึ่ง

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดไว้จำหน่าย และเมื่อออกจากโรงพยาบาลจะคุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป