"นายไพบูลย์ นิติตะวัน" แนะรัฐ สั่งเลิกสหกรณ์ที่มีปัญหาทุจริตคล้ายสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และดำเนินคดีผู้บริหาร ฐานฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน ตามเอาเงินคืนให้ประชาชนโดยตรง อย่าอุ้มซุกปัญหาแบบสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป อดีต ส.ว. กล่าวว่า ขณะนี้มีสหกรณ์บางแห่งได้มีการทุจริตฉ้อโกงเงินของประชาชนคล้ายสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จึงเป็นห่วงว่ารัฐบาล จะใช้วิธีซุกปัญหาโดยเอาเงินภาษีไปอุดหนุนอุ้มสหกรณ์กับผู้บริหารทุจริตฉ้อโกงประชาชน ยื้อเวลาแล้วไปเกิดความเสียหายข้างหน้าอย่างรุนแรงกับเงินของประชาชนทั้งประเทศ ดังนั้นจึงขอให้รัฐใช้กฏหมายดำเนินการโดยเด็ดขาด ด้วยการสั่งเลิกกิจการสหกรณ์ที่พบว่ามีการทุจริต รวมถึง ต้องฟ้องเอาผิดทั้งตัวสหกรณ์และพวกที่ทุจริตในข้อหากระทำผิด พรก.กู้เงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันกระทำผิดฐานฟอกเงิน ให้ดีเอสไอและปปง. ติดตามยึดทรัพย์สินมาคืนให้ประชาชนโดยวิธีเยียวยาผู้เสียหายตามกฏหมายฟอกเงิน จะทำให้ประชาชนผู้ถูกหลอกลวงได้รับการเยียวยาเร็วขึ้นลดความทุกข์ร้อนใจลง โดยไม่ต้องใช้เงินภาษีของประชาชนไปอุดหนุนสหกรณ์ทุจริตเหล่านั้น
ขณะที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเองที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลกรมส่งเสริมสหกรณ์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นในขณะเกิดเรื่อง ขอชี้แจงว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้นตนเองไม่เคยนิ่งนอนใจ หรือเพิกเฉยต่อการจัดการกับการทุจริตฯ โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ได้สั่งการให้ตนเองจัดการแก้ปัญหาอย่างเฉียบขาด และให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคนไม่ให้ละเว้น จึงมีการเรียกประชุมเพื่อแก้ปัญหาถึง 3 ครั้ง และมีหนังสือสั่งการให้ดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดีเอาผิดต่อผู้บริหารสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งการที่นายไพบูลย์ ระบุว่า ตนเองมีส่วนช่วยเหลือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ในการโกงประชาชน นั้น หากนายไพบูลย์ มีข้อมูลจริง หรือรู้ว่ามีนักการเมือง ข้าราชการ คนใด ที่สบคบกับผู้บริหารของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เพื่อร่วมโกงประชาชนที่ฝากเงินกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ขอให้เปิดเผยชื่อออกมา และไปร้องเรียนต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ดำเนินคดี รวมถึงให้ส่งชื่อให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจมาตรา 44 จัดการด้วย โดยจะให้เวลา 3 วัน ในการออกมาเปิดเผยชื่อ และถ้าพ้นจาก 3 วันไปแล้ว นายไพบูลย์ ไม่ยอมออกมาเปิดเผยชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ตนเองจะเดินทางไปพบกับนายไพบูลย์ ถึงที่ทำงาน เพื่อสอบถามว่าที่ออกมาพูดเพื่อจุดประสงค์อะไรกันแน่