พื้นที่ภาคเหนือเกิดพายุฝนพัดถล่มในหลายพื้นที่ ส่งผลให้ต้นไม้ เสาไฟฟ้า โค่นล้มเสียหายจำนวนมาก โดยที่ จ.เชียงใหม่ เกิดฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่สูงเกือบ 20 เมตร โค่นล้มทับบ้านเรือนประชาชนบริเวณลานจอดรถวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ เสียหายจำนวน 3 หลัง
เกิดฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ดินอ่อนตัว และ ต้นก่อยักษ์ขนาดสองคนโอบ อายุกว่า 100 ปี สูงเกือบ 20 เมตร โค่นล้มลงมาทับบ้านเรือนประชาชน บริเวณลานจอดรถวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร อำเภอเมืองเชียงใหม่ เสียหายจำนวน 3 หลัง
ซึ่งขณะเกิดเหตุนางศรีมน สุยะเขต เจ้าของบ้านเลขที่ 1/20 บ้านดอยสุเทพ หมู่ 9 ที่กำลังนอนพักผ่อนในบ้านถูกกิ่งไม้กระแทกศีรษะแตก ส่วนบ้านพังเสียหายไปครึ่งหลัง
นอกจากนี้ยังมีบ้านเลขที่ 1/27 และ บ้านเลขที่ 1/39 ที่อยู่ติดกันเสียหายเช่นกัน โดยหลังคาบ้านพัง ผนังคอนกรีตถล่ม
ด้าน นายขจร ประเสริฐศรี ผู้ใหญ่บ้านดอยสุเทพ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะเรียกประชุมลูกบ้าน และ ร้านค้าบริเวณลานจอดรถ เพื่อหารือ และ ร่วมลงชื่อขออนุญาตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เพื่อขอตัดแต่งกิ่งต้นไม้ใหญ่ ที่อยู่หลังบ้าน และ ร้านค้า เพื่อลดน้ำหนักต้นไม้ใหญ่ เนื่องจากเกรงว่าหากฝนตกหนักลงมาอีก จะทำให้ต้นไม้โค่นล้มลงมาอีก
ทั้งนี้ นอกจากบริเวณดังกล่าวแล้ว เส้นทางขึ้นดอยสุเทพยังมีดินเคลื่อนตัวหลายจุด และมีความเสี่ยงเกิดต้นไม้ใหญ่โค่นล้มได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่อุทยานเข้าตรวจสอบเพื่อหาทางป้องกันแล้ว
ส่วนที่ จังหวัดเชียงราย เกิดฝนตกหนัก และ พายุฤดูร้อนพัดถล่มอย่างรุนแรง ในอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ซึ่งแรงพายุทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูงริมถนนสายแม่จัน-เชียงแสน ฝั่งขาออกไปยังอำเภอเชียงแสน หักโค่นเสียหายกว่า 10 ต้น และ เสาไฟฟ้ายังได้หักทับบ้านของชาวบ้าน เบริเวณบ้านหนองร่อง ตำบลจันจว้าใต้ อำเภอแม่จัน เสียหายอีกด้วย
ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายดำรง ร้องหาญแก้ว โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในบ้าน จึงไม่มีใครบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต แต่อย่างใด โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ประชาชนในตำบลจันจว้าใต้ กว่า 100 หลังคาเรือน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาแม่จัน เร่งเข้าสำรวจความเสียหาย และ เชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนได้ใช้เป็นการชั่วคราว
ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าสำรวจ และ ประเมินความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผล กระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
ส่วนที่ จังหวัดพะเยา เกิดพายุฝนตกหนักและพัดถล่ม ส่งผลให้เต็นท์โดมขนาดใหญ่ ภายในงาน "สัปดาห์โคขุนดอกคำใต้" บริเวณ ลานอเนกประสงค์หลังเทศบาลเมืองพะเยา ริมกว๊านพะเยาล้ม ส่งผลให้บูธจัดงานภายในเต็นท์กว่า 30 บูท พังเสียหายทั้งหมด
นอกจากนี้เต็นท์โดม ยังล้มทับรถยนต์เสียหาย จำนวน 3 คัน โดยเป็นรถเก๋ง 1 คัน รถกระบะ 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ซึ่งชาวบ้านต้องช่วยกันขนข้าวของ ที่เตรียมจัดงาน ออกจากเต้นท์เนื่องจากเกรงว่า จะล้มทับลงมาอีก
ทั้งนี้ ทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา ต้องยกเลิกพิธีเปิด ที่จะมีขึ้นในเย็นวานนี้ (2 มิถุนนายน) และ เลื่อนการจัดงานออกไปแบบไม่มีกำหนด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายทั้งหมด
ขณะที่ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ออกหนังสือเวียนถึงรองนายกรัฐมนตรีทุกคน ทุกกระทรวง และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2560 โดยระบุว่า สืบเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการว่า เนื่องจากสภาพอากาศในระยะต่อไปจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีความเสี่ยงที่จะเกิดพายุโซนร้อนและพายุไซโคลนพัดผ่านประเทศไทย
จึงให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนอพยพประชาชนจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งเตรียมพื้นที่แก้มลิงรองรับปริมาณน้ำที่ไหลจากภาคเหนือลงสู่ตอนกลางของประเทศ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการเกิดน้ำท่วมด้วย
พร้อมสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยศึกษาแผนบริหารจัดการน้ำของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในแต่ละพื้นที่ต่อไป
ปิดท้าย กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ ในช่วงวันที่ 2 - 4 มิ.ย. ประเทศไทยมีปริมาณฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 5 - 8 มิ.ย. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และ มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ สำหรับบริเวณทะเลอันดามัน และ อ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตรข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณที่ราบลุ่ม ที่ลาดเชิงเขา ของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระมัดระวังฝนตกหนัก
ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน และ อ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย