ตัวแทนชาวประมงและผู้ได้รับผลกระทบ เรื่องที่อยู่อาศัยสิ่งปลูกสร้าง รุกล้ำลำน้ำจันทบุรี ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย

นายธีระ วงษ์เจริญ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดจันทบุรี พร้อมตัวแทนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาและชาวบ้านผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณริมน้ำในจังหวัดจันทบุรี กว่า 100 คน ได้ยื่นหนังสือต่อ นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัด ขอให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17 พ.ศ.2560) ที่บังคับให้ ผู้ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมเจ้าท่าขยาย ระยะเวลาจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 22 มิถุนายน 2560 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพื่อให้เกษตรกร ซึ่งไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับกฎหมายฉบับนี้ได้มีเวลาปรับตัว และ สร้างความเข้าใจกับเกษตรกรเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ก่อน เพื่อเสนอแก่นายกรัฐมนตรีต่อไป

โดย ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้รับทราบถึงปัญหาและจะดำเนินการโดยคำนึงถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำและชาวประมง ให้มากที่สุด

สำหรับ กฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17 พ.ศ.2560) ที่มีผลบังคับใช้ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ระบุว่า สิ่งปลูกสร้างล่วงลำน้ำ ที่ไม่เคยได้รับอนุญาต หรือ เคยได้รับอนุญาตแต่สิ่งปลูกสร้างไม่เป็นไปตามรูปแบบ ที่ได้รับอนุญาตก่อนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 หากเจ้าของ หรือ ผู้ครอบครองเพิกเฉยก่อสร้างเพิ่ม แต่ไม่แจ้งให้กรมเจ้าท่า หรือ เพิกเฉยไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของกรมเจ้าท่า ตามระเบียบกฏหมาย

สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาที่สิ่งปลูกสร้างล่วงลำน้ำนั้นตั้งอยู่ สามารถดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างล่วงลำน้ำนั้น โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเป็นของเจ้าของ หรือ ผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้าง และ มีอำนาจในการห้ามมิให้ใช้อาคาร หรือ สิ่งปลูกสร้างนั้น จนกว่าจะมีการแก้ไข หรือ รื้อถอนเสร็จสิ้น

โดยผู้ที่รุกล้ำจะมีโทษทั้งจำและปรับ โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ส่วนค่าปรับคิดเป็นตารางเมตรของพื้นที่ที่ล่วงล้ำลำน้ำ ในอัตราตารางเมตรไม่น้อยกว่า 1,000 บาท และ ไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท

ชาวประมงร้องผู้ว่าฯ ขอให้ช่วยเรื่องลุกล้ำริมน้ำ