ตำรวจนครศรีธรรมราช เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาฆ่าฝังสามเณรปลื้ม รวมถึงวัตถุโบราณที่หายไป ขณะที่สำนักงานพระพุทธศาสนานาเตรียมช่วยวางระบบการเช่าอสังหาริมทรัพย์ในวัด
การตรวจสอบทรัพย์สินและผลประโยชน์ภายในวัดวังตะวันตก หลังเกิดคดีฆ่าฝังสามเณรปลื้มวัย 17 ปี ซึ่งพบว่า มีชนวนเหตุมาจากผลประโยชน์มหาศาลของวัด ล่าสุดสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมส่งเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุนช่วย เพื่อวางระบบการเช่าอสังหาริมทรัพย์ของวัด
ที่พบว่า 2 ใน 4 ผู้ต้องหา คือนายเด่นชัย ภูมินิยม และภรรยา นางสาวปิยฉัตร อรุณสกุล ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลที่เข้าครอบครองมีรายได้ในการเช่าอสังหาริมทรัพย์สูงถึงกว่า 3.5 แสนบาทต่อเดือน
ล่าสุด ยังพบว่า ทางวัดค้างจ่ายภาษีโรงเรือน กับเทศบาลนครนครศรีธรรมราช อีกกว่า 4 แสนบาท แม้ผู้เช่าจะชำระภาษี ผ่านมาทางนางสาวปิยฉัตร และนายเด่นชัยแล้ว แต่ผู้ต้องหากลับไม่นำไปชำระต่อ
ส่วนหลักฐานทางการเงิน รวมถึงทรัพย์สินอื่น พระครูพรหมเขตคณารักษ์ รักษาการเจ้าอาวาส ซึ่งจะถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ระบุว่า หลังเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่เข้าค้นบ้านผู้ต้องหา พบเอกสารต่างๆ ตนได้ขอรับมาเพียงทะเบียนวัดที่หายไป
ส่วนเอกสารธุรกรรมทางการเงินนั้น เจ้าหน้าที่ขอสอบสวนเส้นทางก่อน เนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญ ในการติดตามเงินส่วนที่เหลือ โดยทางธนาคาร ซึ่งมีบัญชีของวัดอยู่ ได้ขอเวลารวบรวมข้อมูล 2 วัน
ขณะที่วัตถุโบราณ หรือพระบูชาที่หายไปนั้น ต้องรอให้คณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบร่วมกัน จึงจะได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม พบว่า บนโต๊ะหมู่บูชาภายในห้องอดีตเจ้าอาวาส ไม่พบพระประธาน ซึ่งเป็นพระเก่าแก่
คงเหลือเฉพาะพระบูชาที่เป็นของสมัยใหม่เท่านั้น รวมทั้งยังพบร่องรอยการติดตั้งกล้องวงจรปิด ภายในกุฎิทุกมุม ซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนสั่งให้ติดตั้งเอง