ผู้เสียหายแจ้งจับแอดมินสาวเพจขายกระเป๋าแบรนด์เนม ชวนเหยื่อร่วมลงทุนผ่านเฟซบุ๊ก จ่ายดอกเบี้ยงามในช่วงแรก ก่อนเงียบหายไป คาดเสียหายกว่า 15 ล้านบาท ขณะตำรวจเตรียมออกหมายเรียกเจ้าตัวมาให้ปากคำ
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ผู้เสียหายรวม 18 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผกก.5 บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับแอดมินสาวเพจขายกระเป๋าแบรนด์เนม และพวกรวม 3 คน หลังหลอกให้ร่วมลงทุนเงินออม โดยจะได้รับดอกเบี้ย 10 % ของเงินต้นทุกเดือน แต่เมื่อลงทุนแล้วกลับไม่เป็นไปตามคำกล่าวอ้าง มูลค่าเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท
ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม จากเพจเฟซบุ๊ค ชื่อ coach shop by emmy โดยมี น.ส.เอมมี่ เป็นแอดมินเพจ สามารถจัดส่งกระเป๋าและสินค้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศในราคาถูก เนื่องจากพักอาศัย และแต่งงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยติดต่อซื้อขายกันมาประมาณ 5 ปี ซึ่งได้รับสินค้าจริง จึงเกิดความน่าเชื่อถือ
จนเมื่อช่วงเดือนกันยายน 2559 น.ส.เอมมี่ ได้ประกาศจะขยายธุรกิจแบรนด์เนม ด้วยการชวนกลุ่มลูกค้าที่ซื้อขายของในเพจ มาร่วมลงทุนรูปแบบเงินออม โดยจะให้ผลกำไรเป็นดอกเบี้ย 10% ของเงินต้นต่อเดือน จากนั้น ได้สร้างกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ "สวยและรวยมาก" มีผู้สนใจจำนวน 43 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มแม่บ้าน
หลังมีผู้สนใจ น.ส.เอมมี่ ได้ตั้งกลุ่ม "ดอก 10 %" เพื่อเป็นช่องทางติดต่อกับสมาชิกและแจ้งยอดการโอนเงิน ซึ่งช่วงแรกๆ สมาชิกได้รับเงินดอกเบี้ยตามที่ตกลงกันไว้ทุกเดือน กระทั่งเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา น.ส.เอมมี่ ได้ประกาศยุติการให้ดอกเบี้ย และจะทยอยคืนเงินต้นครั้งละ 10% ให้ เนื่องจากมีปัญหาด้านการเงิน
โดยในช่วงแรก สมาชิกในกลุ่มบางคนได้รับเงินต้นคืน จนวันที่ 13 พฤษภาคม ไม่มีใครได้รับเงินต้นคืนอีก ทางสมาชิกจึงติดต่อไป ซึ่ง น.ส.เอมมี่ ได้แจ้งว่า กำลังหาเงินต้นมาจ่ายให้สมาชิกอยู่ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สมาชิกจะติดต่อกับ น.ส.เอมมี่ ได้แค่ผ่านเฟซบุ๊กเท่านั้น ไม่เคยมีใครพบ หรือติดต่อทางโทรศัพท์ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ เปิดเผยว่า คดีนี้ มีมูลค่าเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทยอยสอบปากคำผู้เสียหายให้ครบทั้ง 43 คน จากนั้น จะประสาน สตม.ให้ตรวจสอบว่า น.ส.เอมมี่ พักอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจริงหรือไม่ และผู้ดูแลบัญชีทั้งสองคน มีส่วนเกี่ยวข้องคดีหรือไม่อย่างไร
อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายความผิดฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน หากรวบรวมหลักฐานแล้ว มีการกระทำผิดจริง จะออกหมายเรียกให้ น.ส.เอมมี่ และพวกให้มาสอบปากคำหาข้อเท็จจริงต่อไป.
Cr.ฐากูร // กทม.