นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการศาสตร์พระราชา โดยระบุรัฐบาลจะดูแลจัดสรรงบประมาณให้ตรงกับความต้องการของประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศสูงสุด ขณะที่ภารกิจ วานนี้ (9มิ.ย.) นายกฯมีภารกิจตลอดทั้งวัน แต่ยังไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
เมื่อเวลา 10.30 น. นางสาวมาเรีย เดล การ์เมน โมเรโน ไรย์มุนโด เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสเปนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดย นายกฯขอบคุณที่ น.ส.มาเรีย ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสเปนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง
โดยนายกฯขอให้สเปนมั่นใจในสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดำเนินตามโรดแมป เพื่อกลับคืนสู่การมีประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง สังคมที่ปรองดอง ซึ่ง นางสาว มาเรีย แสดงความชื่นชมกระบวนการทำงานของไทยในการขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืน และเชื่อมั่นว่าไทยจะมีบทบาทนำในภูมิภาคอาเซียน ที่จะสามารถสนับสนุนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างเอเชียกับยุโรปให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
นายกฯประชุมก.น.จ. ยังไม่ตอบคำถามสื่อ
จากนั้น ในเวลา 13.30 น. พลเอก ประยุทธ์ ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายบริหารจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) โดยมี นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
โดยนายกฯ กล่าวในการประชุมว่า หลังจากร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายงบประมาณปี 2561 ผ่านความเห็นชอบวาระแรกไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. หากไม่นับรวมเสียงของประธาน และรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถือว่า เห็นชอบ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นการตอบสนองเป็นอย่างดีต่อแผนงาน และการจัดสรรงบประมาณ 6 กลุ่มยุทธศาสตร์ของรัฐบาล
ทั้งนี้ นายกฯ ใช้เวลาประชุมเพียง 30 นาทีเท่านั้น หลังการประชุม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกฯ เกี่ยวกับ กรณีในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ จะเป็นวันแรกที่ให้ประชาชนได้ตอบ 4 คำถามเกี่ยวกับการเลือกตั้งผ่านศูนย์ดำรงธรรมของกระทรวงมหาดไทย โดยนายกฯ กล่าวตอบเพียงสั้นๆ ว่า "แล้วค่อยเจอกัน" ซึ่งถือว่า นายกฯ ยังไม่ได้ตอบคำถามสื่่อมาตั้งแต่วันอังคารที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา
นายกฯยันจัดสรรงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ขณะที่ในเวลา 20.15 น. พลเอกประยุทธ์ กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”ว่า เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมาได้เข้าชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีปี 61 ต่อ สนช. โดยรัฐบาลพยายามมุ่งเน้นให้การตั้งงบประมาณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และดูแลจัดสรรให้ตรงกับความต้องการของประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศสูงสุด การปรับเปลี่ยนการจัดทำงบประมาณเกิดขึ้นในหลายมิติ ดังนี้ มิติแรกคือ การจัดสรรงบประมาณมีความชัดเจนและดูแลให้เหมาะสมกับความต้องการของประเทศ โดยนำงบประมาณกว่า 240,000 ล้านบาท ไปเพิ่มในงานบูรณาการ และงานยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนนโยบาย และการปฏิรูปประเทศ ให้เกิดผลอย่างชัดเจน
มิติที่สอง คือ การจัดสรรงบประมาณให้สามารถสนับสนุนการทำงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากการใช้จ่ายงบประมาณร่วมกันให้ได้ สะดวกยิ่งขึ้น มิติที่สาม คือ การสร้างความคุ้มค่าให้กับการใช้งบประมาณ มีกลไกในการจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อป้องกันการทุจริต ผ่าน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง และมิติที่สี่ คือ การปฏิรูปการจัดสรรงบประมาณนี้เป็นก้าวสำคัญ จะขับเคลื่อนแผนการปฏิรูปประเทศให้เกิดขึ้น และดำเนินไปได้ต่อเนื่อง โดยรัฐบาลวางแผนผลักดันการปฏิรูปด้านต่างๆ ควบคู่โดยเฉพาะกลไกมาตรฐาน กฎหมายต่างๆ ทั้งทำให้เกิดขึ้นใหม่ ปรับปรุงเพิ่มเติม หรือยกเลิกบางส่วน เพื่อให้สอดคล้องกันทั้งระบบ
นายกฯขอคนไทยใช้สติเสพสื่อโซเชียล
พลเอกประยุทธ์ ยังกล่าวว่า การใช้สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค ควรจะสร้างกระบวนการเรียนรู้ สร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง ด้วยการสร้างหลักคิดที่มีข้อมูลมีความคิดพื้นฐาน มีการใช้สติปัญญา มีวิจารณญาณที่ดีว่าทำอย่างไรจะไม่ตกเป็นเหยื่อของการปลุกระดมความขัดแย้ง หรือ ถูกใช้ประโยชน์โดยคนบางกลุ่มที่อาจจะมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ หรือ การสร้างค่านิยมผิดๆ ทำให้สังคมไทยมีปัญหา หรือนำไปสู่สังคมที่เสื่อมทราม ตนเองไม่อยากให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่สื่อสารกันอย่างไร้สาระ ผิดเพี้ยน หรือปล่อยปละให้เกิดความมักง่ายในการใช้ภาษาและการสื่อสาร ทั้งที่การสื่อสารเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทั้งในชีวิตประจำวัน และในการทำงานร่วมกัน เพราะคำพูดเพียงไม่กี่คำสามารถจะสร้างคน เปลี่ยนคน หรือทำลายคนได้ในเวลาอันสั้น จึงอยากให้คนไทยเสพสื่อ โดยคิดและตัดสินใจ ด้วยปัญญา และต้องหาข้อมูลสนับสนุนเพิ่มเติมด้วย ให้รอบคอบและรอบด้าน ใช้การคิดวิเคราะห์พิจารณาให้ครบถ้วนกระบวนการ