ผู้ประกอบการรายย่อย และเกษตรกรสวนยางพาราที่จังหวัดบุรีรัมย์ ร้องเรียนให้ภาครัฐ เร่งหามาตรการช่วยเหลือราคายางตกต่ำและผันผวน
เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และผู้ประกอบการรับซื้อยางพารารายย่อย ที่อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือ หลังราคายางพาราตกต่ำเพียงสัปดาห์เดียว ทั้งยางแผ่นดิบ และยางก้อนถ้วย ราคาตกลงกว่ากิโลกรัมละ 10 บาท
ขณะนี้ ยางแผ่นดิบอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 53 บาท / ยางก้อนถ้วยอยู่ที่กิโลกรัมละ 24 – 25 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่อยู่ในจุดคุ้มทุน จึงขอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยพยุง หรือแทรกแซงราคา ไม่ให้ราคายางต่ำกว่ากิโลกรัมละ 70 บาท และไม่ผันผวนขึ้นลง รวมทั้งหาตลาดส่งออก เพื่อให้ราคายางไม่ผันผวนตกต่ำมากไปกว่านี้
และจากการที่ราคายางที่ตกต่ำในช่วงนี้ ส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายยางแผ่นดิบ และยางก้อนถ้วย ตามจุดรับซื้อต่างๆ ค่อนข้างเงียบเหงา มีเกษตรกรนำยางมาขายบางตา เฉลี่ยวันละประมาณ 10 ตัน เท่านั้น จากก่อนหน้านี้ ช่วงที่ราคาแผ่นดิบอยู่ที่กิโลกรัมละ 70 บาท และยางก้อนถ้วยอยู่ที่กิโลกรัมละ 34 บาท จะมีเกษตรกรนำมาขาย ไม่น้อยกว่าวันละ 30 ตัน เนื่องจากต้องการรอให้ราคายางสูงขึ้นกว่านี้ เพื่อให้คุ้มต้นทุนในการผลิต
โดยเกษตรกรที่นำยางก้อนถ้วยมาขาย ที่จุดซื้ออำเภอแคนดง บอกว่า ช่วงนี้ราคายางตกต่ำมาก ไม่คุ้มทุน แต่จำเป็นต้องนำเงินไปเป็นค่าปุ๋ย และใช้จ่ายในครอบครัว
ขณะที่ผู้ประกอบการรับซื้อยางรายย่อย ที่อำเภอแคนดง ยอมรับว่า หลังราคาตกต่ำลง ทำให้เกษตรกรนำยางมาขายลดลงมากกว่าครึ่ง เนื่องจากส่วนมากชะลอการกรีด เพื่อรอราคาให้สูงขึ้น และปัญหาราคายางที่ตกต่ำ และผันผวนในช่วงนี้
นอกจากจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรชาวสวนยางแล้ว ยังกระทบกับผู้ประกอบการรับซื้อยางรายย่อยด้วย เพราะไม่สามารถรับรู้ราคาล่วงหน้าได้ โดยช่วงที่รับซื้อมีราคาสูง แต่พอจะนำไปขายให้กับโรงงานแปรรูปกลับมีราคาตกต่ำ ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย ต้องแบกรับภาระส่วนต่างที่หายไป