ตำรวจแถลงผลการจับกุม พ่อเลี้ยงกับแม่แท้ๆ ก่อเหตุร่วมกันฆ่าถ่วงน้ำเด็กหญิงวัย 10 ขวบ สอบสวนสารภาพ ทำร้ายลูกมานับ 10 ครั้ง แล้วกักขังไว้ในห้องก่อนกลับมาเจอเป็นศพ จึงนำมาโยนทิ้งน้ำอำพรางคดี

พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโท ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายวจะรัน ทัดสวรรค์ อายุ 35 ปี และ นางสาวสุภาพร นนทรา อายุ 31 ปี สองสามีภรรยา ที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าถ่วงน้ำเด็กหญิงวัย 10 ปี หลังติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ในอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
              
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ กล่าวว่า หลังจากที่ทางตำรวจได้รับแจ้งว่า พบศพเด็กหญิงวัยประมาณ 10-15 ปี ถูกถ่วงน้ำลอยขึ้นมาภายในคลองสำโรง บริเวณท้ายซอยสุขาภิบาล1 ตำบลศรีษะจระเข้ใหญ่ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา

ทางฝ่ายสืบสวน ได้ออกติดตามและหาข้อมูล รวมถึงส่งศพชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จนทราบว่า ผู้ตายน่าจะเป็น เด็กหญิงพรทิพย์ กุลนานันท์ หรือ น้องรุ้ง อายุ 10 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับ นางสาวสุภาพร ผู้เป็นแม่แท้ๆ และนายวจะรัน พ่อเลี้ยง ในห้องเช่าใกล้จุดพบศพ

ประกอบกับมีญาติของน้องรุ้ง มาขอดูภาพถ่ายศพที่พบ พร้อมยืนยันว่า เป็นศพของเป็นศพของน้องรุ้ง แน่นอน ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงตรวจสอบประวัติอาชญากร จนไปพบว่า นายวจะรัน เคยต้องโทษในคดียาเสพติดและมีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดสระบุรี จึงติดตามไปจับกุมตัวได้ทั้งคู่

พลตำรวจโท ชาญเทพ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งสองให้การรับสารภาพ ว่า หลังรับเด็กมาอยู่ได้ 3 เดือน ก็เริ่มทุบตีเด็ก เพราะเด็กว่าดื้อและชอบโกหก จากนั้นก็จะกักขังเด็กไว้ในห้องพร้อมกับบุตรสาวอายุ 3 ขวบของตนอีกคน เวลาที่ออกไปทำงาน ส่วนการทำร้ายมักจะทุบตีและเตะ

ซึ่งส่วนใหญ่นางสาวสุภาพร จะเป็นผู้ลงมือเอง โดยเจ้าตัวก็รับว่า ตีเด็กมาแล้วนับ 10 ครั้ง ขณะที่ฝ่ายของพ่อเลี้ยงก็จะร่วมทุบตีด้วยในบางครั้งด้วย กระทั่งวัน มิ.ย. นางสาวสุภาพร ได้ใช้ไม้ไผ่ตีเข้าไปที่หัวเด็กและตามร่างกาย จนเด็กมีอาการป่วยหน้าบวมจนกินข้าวไม่ได้ ก่อนจะนำเด็กเข้าไปขังไว้ในห้องนอนเหมือนที่ผ่านมา

จากนั้นในวันศุกร์ (9 มิ.ย.) ช่วงค่ำ พบว่า น้องรุ้ง เสียชีวิตแล้ว จึงได้ร่วมกันใช้เชือกมาผูกมัดมือมัดเท้า แล้วใช้ผ้านวมห่อร่าง ก่อนจะอุ้มขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่ไปที่ศาลาริมน้ำ จากนั้นจึงนำก้อนหินที่หาได้ในละแวกใส่ลงไปในถุงข้้าวสาร นำไปมัดกับขาของศพ แล้งจึงช่วยกันอุ้มศพโยนทิ้งน้ำเพื่ออำพรางคดี

ส่วนบรรยากาศ ที่บ้านเกิดของ นางสาวสุภาพร นนทรา แม่ของน้องรุ้ง ที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวานที่ผ่านมา (14 มิ.ย.) นายสุบรรณ มนทรา และ นางสายสมร จงสงชัย ตายายของน้องรุ้ง ต่างตกอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจอย่างหนัก หลังทราบข่าวว่า ต้องสูญเสียหลานสาว ไปด้วยการกระทำของลูกสาวตัวเอง

โดย นางสายสมร เล่าว่า ตนเองมีลูกสาว 2 คน แม่ของน้องรุ้งเป็นพี่สาวคนโต ไปทำงานที่อยู่กรุงเทพฯ หลายปีแล้ว และ เคยมีสามีมาแล้ว 1 คน คือ พ่อของน้องรุ้ง ก่อนจะมาได้สามีใหม่และมีลูกสาวด้วยกันอีก 1 คน

จากนั้นแม่น้องรุ้ง ก็พาน้องรุ้งมาให้ตนเลี้ยงดู ก่อนที่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา แม่ของน้องรุ้ง จะมารับลูกไป โดยบอกว่า จะพาน้องรุ้งไปเที่ยวช่วงปิดเทอม ซึ่งทางตนกับสามี ก็ยอมให้ไป เพราะเห็นว่า เป็นแม่ลูกกัน กระทั่งมาเห็นข่าวจึงรู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

ล่าสุด นายพงษ์เทพ ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนท่าลาดวารีวิทยา ที่น้องรุ้ง เคยเรียนอยู่ ได้เข้าช่วยเหลือ ครอบครัวของน้องรุ้ง ด้วยการมอบจำนวน 1,800 บาท เพื่อให้เป็นค่าเดินทางไปรับศพน้องรุ้ง กลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน พร้อมกับเปิดเผยว่า

ตนเองและครูทุกคนในโรงเรียน รู้สึกช๊อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ เสียใจเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมา น้องรุ้ง เป็นเด็กที่มีมารยาทดี เรียบร้อย และเป็นนักกิจกรรมของโรงเรียน จึงไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะมาเกิดขึ้น

คืบหน้าคดีฆ่าเด็กหญิงถ่วงน้ำ