ที่ประชุม สนช. ใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง พิจารณาร่างกฎหมายพรรคการเมือง ก่อนมีมติเห็นชอบด้วยคะแนน 180 เสียง โดยยืนยันหลักการเดิมให้พรรคมีทุนประเดิม 1 ล้านบาท และต้องชำระค่าสมาชิกพรรคปีละ 100 บาท ตามเดิม ส่วนการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งต้องผ่านการคัดเลือกจากสาขาพรรคก่อน ตามระบบไพรมารี่โหวต

วานนี้ (15 มิ.ย.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณา ร่างพ.ร.บ
.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาแล้วเสร็จ โดยพลเอก สมเจตน์ บุญถนอม ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญฯ กล่าวชี้แจงว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวมี 142 มาตรา แก้ไขไป 60 มาตรา ตัดออก 1 มาตรา และเพิ่มใหม่ 4 มาตรา

มีเจตนารมณ์ขจัดนายทุนครอบงำพรรคการเมือง ส่งเสริมให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ประชาชนรู้สึกเป็นเจ้าของพรรค มีส่วนร่วมคัดสรรผู้สมัครทั้งส.ส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ โดยยืนยันว่า พรรคการเมืองต้องถูกปฏิรูป ถ้าไม่เช่นนั้น การปฏิวัติจะเสียของอย่างแน่นอน

จากนั้นที่ประชุมได้เปิดให้อภิปราย สมาชิกสนช.ส่วนใหญ่ท้วงติงถึงความเหมาะสมในประเด็นที่คณะกรรมาธิการวิสามัญได้แก้ไข มาตรา 9 ว่าด้วยการกำหนดเงินทุนประเดิมพรรคการเมือง โดยให้พรรคการเมืองต้องมีทุนประเดิมไม่น้อยกว่าจำนวนที่กกต.กำหนดเป็นค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งกกต.ระบุว่า เป็นเงิน 1 ล้าน 5 แสนบาท โดยเก็บจาก ผู้ร่วมจัดตั้งพรรคร่วมกันจ่ายคนละไม่น้อยกว่า 1,000 บาทแต่ไม่เกิน 50,000 บาท

ต่างจากเดิมที่กรรมร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำหนดให้ต้องมีเงินทุนประเดิมพรรคไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท โดยมาจากผู้ร่วมจัดตั้งพรรคการเมืองทุกคนคนละไม่เกิน 1,000 บาท แต่ไม่เกินคนละ 3 แสนบาท

โดยนายธนาวัฒน์ สังข์ทอง กรธ.ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้ขอเสนอให้แก้ไขมาตรา 9 กลับไปตามที่กรธ.เสนอมาในครั้งแรก คือ การให้มีทุนประเดิมไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท เพราะหากบังคับใช้ตามที่กรรมาธิการเสียงข้างมากแก้ไข จะก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ เนื่องจากจะมีปัญหาตามมาว่า ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของแต่ละครั้งจะไม่เท่ากัน โดยจะผันแปรไปตามที่กกต.ประกาศในแต่ละครั้ง จึงควรกลับไปใช้ตามที่กรธ.เสนอไว้

หลังจากอภิปรายอย่างดุเดือดเกือบ 2 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 109 เสียง ต่อ 95 เสียงไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขของคณะกรรมาธิการวิสามัญ โดยเห็นควรแก้ไขมาตรา 9 ให้คงตามข้อเสนอของกรธ. คือ พรรคการเมืองต้องมีทุนประเดิมไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ผู้ร่วมจัดตั้งพรรคทุกคนต้องร่วมจ่ายเงินเพื่อเป็นทุนประเดิมคนละไม่น้อยกว่า 1,000บาท แต่ไม่เกินคนละ5หมื่นบาท

จากนั้นที่ประชุมเห็นชอบการตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.ระบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค ด้วยระบบไพรมารี่โหวต โดยกำหนดให้การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง และส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ต้องผ่านการคัดเลือกจากสาขาพรรคหรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัดก่อน หรือ ระบบไพรมารี่โหวต โดยคำนึงถึงความเท่าเทียมกันระหว่างระหว่างชายและหญิงด้วย

ส่วนค่าบำรุงพรรคการเมือง ที่ประชุมสนช.ยืนตามร่างเดิม คือ ต้องเรียกเก็บจากสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่าปีละ 100 บาท หรือ เรียกเก็บค่าบำรุงพรรคแบบตลอดชีพก็ได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 2 พันบาท

โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในวาระ 3 ด้วยคะแนน 180 ต่อ 0 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน 1 หลังจากนี้จะส่งร่างกฎหมายพรคการเมืองให้กกต.และกรธ.พิจารณาต่อไป หากมีความเห็นแย้งก็ส่งกลับสนช.ตั้งกรรมาธิการร่วมพิจารณาภายใน 10 วัน ถ้าไม่มีความเห็นแย้งก็ส่งนายกฯ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายต่อไป ซึ่งที่ประชุมใช้เวลาพิจารณานานกว่า 6 ชั่วโมง

ขณะเดียวกัน วานนี้ ที่ประชุมสนช.ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน วาระแรก โดยสนช.ส่วนใหญ่ อภิปรายเป็นห่วงการกำหนดคุณสมบัติผู้ตรวจฯ 3 คน ที่กำหนดไว้สูงเกินไป

เพราะการให้ผู้ตรวจฯ 2 คนต้องมีประสบการณ์การบริหารไม่ต่ำกว่าอธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการ ที่เทียบเท่าไม่น้อยกว่า 5 ปี และอีก 1 คน ต้องมีประสบการณ์การดำเนินกิจการสาธารณะไม่น้อยกว่า 20 ปี อาจทำให้สรรหาผู้มาดำรงตำแหน่งได้ยาก และทำให้ผู้ตรวจฯ ชุดปัจจุบันถูกเซ็ตซีโรทั้งหมด ถือว่าไม่เป็นธรรม อาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญได้

นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ชี้แจงว่า กรธ.ได้พิจารณาการคงอยู่ในตำแหน่งของกรรมการองค์กรอิสระไว้ 3 ทาง คือ 1.ตั้งใหม่ทั้งหมด 2.คงไว้เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติ และ3.ให้อยู่ต่อไป ซึ่งกรธ.คิดว่า 2 ทางแรกไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ส่วนทางที่ 3 หมิ่นเหม่ต่อการขัดรัฐธรรมนูญ แต่ กรธ.ไม่มีสิทธิส่งข้อสงสัยไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ สนช.มีสิทธิส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้

จากนั้นที่ประชุม สนช.มีมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน วาระแรก ตามที่กรธ. เสนอมา ด้วยคะแนน 217 เสียง ต่อ 0 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง

มติ สนช. 180 เสียง ผ่านร่างกฎหมายพรรคการเมือง เคาะทุนประเดิม 1 ล้าน