แม่หมีแพนด้า "หลินฮุ่ย" เดินข้ามไปหักโค่นต้นไผ่ ในส่วนจัดแสดงเดิมของ "ช่วงช่วง" ก่อนกลับมานอนพักผ่อนในช่วงโค้งสุดท้ายการตั้งท้อง เจ้าหน้าที่ยังต้องจับตาดูแลอย่างใกล้ชิด และหากมีโอกาสจะทำการอัลตราซาวนด์ดูตัวอ่อนในท้อง
ที่ส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ ตลอดทั้งวันพบว่ามีประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองที่พาลูกหลานท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่ให้ความสนใจเข้าเที่ยวชมความน่ารักของหมีแพนด้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการเปิดให้ชมเฉพาะส่วนจัดแสดงของ "ช่วงช่วง" หมีแพนด้าตัวผู้เพียงตัวเดียวเท่านั้น
ส่วน "หลินฮุ่ย" หมีแพนด้าตัวเมีย ขณะนี้ยังคงงดเปิดให้เข้าชม เนื่องจากอยู่ในช่วงการติดตามตั้งท้อง และเพื่อให้ "หลินฮุ่ย" ได้พักผ่อนอย่างเงียบสงบ ปราศจากการรบกวน จะได้เพิ่มโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จในการได้ลูกหมีแพนด้าตัวใหม่ ที่เกิดในประเทศไทยจากการตั้งท้องครั้งนี้
อย่างไรก็ตามทางสวนสัตว์เชียงใหม่ ก็ได้มีการติดตั้งจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่พร้อมถ่ายทอดสดสัญญาณภาพการใช้ชีวิตทุกอิริยาบถของ "หลินฮุ่ย" ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนได้รับชมอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังมีการตั้งโต๊ะ จัดเตรียมกระดาษและปากกา ไว้ให้ผู้เข้าเที่ยวชม ได้ร่วมกันเขียนข้อความอวยพร และให้กำลังใจ "หลินฮุ่ย" ด้วย
สำหรับความคืบหน้าการติดตามการตั้งท้องของ "หลินฮุ่ย" นั้น ล่าสุดพบว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา (17 มิ.ย) "หลินฮุ่ย”" ยังคงมีพฤติกรรมการนอนหลับพักผ่อนเป็นส่วนใหญ่ โดยช่วงเช้าเมื่อออกจากคอกกัก "หลินฮุ่ย" ได้เดินสำรวจทั่วพื้นที่ของส่วนจัดแสดง ก่อนจะเข้าไปหักโค่นต้นไผ่ ที่ปลูกอยู่ในส่วนจัดแสดงเดิมของ "ช่วงช่วง" แล้วเดินกลับมานอน
ส่วนผลการตรวจวัดระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนนั้น ล่าสุด ยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 100 นาโนกรัมต่อมิลลิกรัมครีเอตินีน เหมือนเช่นตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าการตั้งท้องยังคงดำเนินอยู่ รวมทั้งน่าจะใกล้สิ้นสุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ย้ำว่า ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นเมื่อใด และสิ้นสุดลงด้วยการออกลูกหรือไม่ โดยทำได้แต่เพียงการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมต่างๆ ให้ดีที่สุดเท่านั้น
แต่ทั้งนี้หากเป็นไปได้ก็อยากจะทำการอัลตราซาวนด์เพื่อตรวจดูว่าตัวอ่อนในท้องมีพัฒนาการ หรือมีสัญญาณชีพให้เห็นหรือไม่ ซึ่งจะทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น