ที่ประชุมสปท.ประชุมสับ กรณีข่าวซื้อขายตำแหน่งตำรวจ โดย"พลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา"ยืนยันไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง ชี้ กลุ่มคนผิดหวัง และพวกอิจฉาริษยา ปล่อยข่าวลือใส่ร้ายตำรวจ
ในการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)ภายหลังหมดวาระการประชุม ที่ประชุมได้เปิดให้สมาชิกหารือกัน โดยพลตำรวจเอกสุวิระ ทรงเมตตา สมาชิก สปท. และที่ปรึกษา สบ.10 ได้หารือถึงกรณีที่นายวิทยา แก้วภราดัย อดีต สปท. พูดถึงเรื่องการซื้อขายตำแหน่งว่า ที่ผ่านมามีการกล่าวหาเรื่องการซื้อขายตำแหน่งหลายครั้งแล้ว ซึ่งจากการสอบถามจากเพื่อนตำรวจ รุ่นพี่ รุ่นน้อง 300 คน และลูกศิษย์ตำรวจอีก 3 หมื่นคน พบว่า ไม่มีใครจ่ายเงิน และไม่มีใครรับเงินจากการซื้อขายตำแหน่ง
ตนจึงยืนยันว่า ไม่มีผู้บังคับบัญชาขายตำแหน่งแน่นอน เพราะการซื้อขายตำแหน่งในยุคนี้ ไม่สามารถกระทำได้ จากการตรวจสอบพบว่า ต้นตอข่าวลือมาจาก 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ผิดหวัง จากการแต่งตั้งโยกย้าย มีความโกรธเคืองผู้บังคับบัญชาที่ไม่แต่งตั้งตนเอง จึงปล่อยข่าวลือ เพื่อเป็นข้ออ้างกับพวกพ้อง หรือ เพื่อนฝูง ซึ่งคำกล่าวอ้างที่ดีที่สุดคือ ไม่มีเงินซื้อตำแหน่งจึงไม่ได้รับการแต่งตั้ง
กลุ่ม2.ผู้ที่มีความความผิดหวังจากการแต่งตั้งโยกย้าย และโกรธเคืองผู้ที่ได้รับ ตำแหน่งใหม่ จึงมีความริษยาใส่ร้ายผู้ที่ได้รับตำแหน่ง 3.กลุ่มผู้มีบารมี ที่อยู่ในพื้นที่ ที่ฝากลูกน้อง เพื่อนฝูง ญาติสนิท มาเพื่อขอรับการสนับสนุนในตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่เมื่อไม่สามารถแต่งตั้งให้ได้จึงเกิดความแค้น และ ปล่อยข่าวว่า มีการซื้อขายตำแหน่ง และ 4.กลุ่มที่เป็นกองเชียร์ของข้าราชการตำรวจที่กำลังจะขึ้นสู่ตำแหน่ง
จากนั้นสปท. ได้ขอเสนอให้เป็นการประชุมลับ เพื่อให้ทุกคนพูดความจริงออกมา และนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง จากนั้นประธานในที่ประชุมสปท.จึงสั่งให้เป็นการประชุมลับ โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง โดยในที่ประชุม สปท.ทั้งที่เป็นตำรวจ 4 นาย ทหาร 2 นาย และอดีตข้าราชการอีก1 ราย ต่างชี้แจงว่า ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งอย่างแน่นอน พร้อให้ยึดตามหลักกาลามสูตร 10 ข้อของพระพุทธเจ้า ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ อย่าเชื่อเพียงเพราะได้ยินจากใครมา เมื่อสมาชิก สปท. ฟังการชี้แจงแล้วจึงเข้าใจกันมากขึ้น
ส่วนนางสมศรี หาญอนันทสุข ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (Police Watch Thailand) และเครือข่ายประชาชน 42 องค์กร เข้ายื่นหนังสือถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อ เรียกร้องให้ปฏิรูปองค์กรตำรวจโดยเร็ว โดยให้การกระจายอำนาจสู่ตำรวจจังหวัด แยกอำนาจในการสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเสนอแนวทางการสรรหาคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจอย่างเอาจริงเอาจัง
นางสมศรี กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางการปฏิรูปตำรวจของรัฐบาล ทั้งกรณีการซื้อขายตำแหน่ง การใช้อำนาจในทางมิชอบ การปฏิบัติหน้าที่อย่างฉ้อฉล ด้วยการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรตำรวจ โดยเชื่อว่า จะส่งผลดีแก่ประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศ