กลุ่มประมงพื้นบ้านวังแก้ว อ่าวละมุ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อนุรักษ์แหล่งกุ้งแชบ๊วยหางแดง ซึ่งจะมีในช่วงเดือน มิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม และจะอยู่ในแหล่งน้ำตื้นในพื้นที่นี้ เพียงแห่งเดียวในจังหวัดระยอง
นายชาญชัย ศรีประสิทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมนายสมจิตร ขวัญจิตร ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านวังแก้ว อ่าวละมุ กล่าวว่า กุ้งแชบ๊วย เป็นกุ้งทะเลธรรมชาติ ที่มีราคาค่อนข้างแพง ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในทะเลลึก หากินยากมาก
แต่ในบริเวณทะเลอ่าวเจริญ อ่าวละมุ ในเขต ม.2 ซึ่งเป็นพื้นที่เลียบชายฝั่งยาว แค่ 3-5 กิโลเมตร กลับพบมีกุ้งแชบ๊วยตามธรรมชาติออกมาหากิน ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมเท่านั้น ทำให้ประมงเรือเล็กชายฝั่ง แถบนี้ มีรายได้ดี ขั้นต่ำถึง 12,500 บาทต่อวัน จากการใช้อวนดักกุ้งตามแนวชายฝั่ง จึงอยากให้ภาครัฐ ช่วยอนุรักษ์แนวกำเนิดธรรมชาตินี้
ด้านนายวิทยา ชพานนท์ นายอำเภอแกลง กล่าวว่า หลังลงพื้นที่ดูการจับกุ้งของชาวประมง พบว่า กุ้งทะเลชนิดนี้ หารับประทานได้ไม่บ่อยนัก ปกติจะหากินในทะเลน้ำลึก เมื่อถึงฤดูวางไข่ จะเข้ามาวางไข่ในเขตน้ำกร่อย ตามแนวชายฝั่งที่มีน้ำไม่ลึก เมื่อเติบโตจะว่ายลงทะเลลึก
จากการสอบถามชาวประมงทราบว่า กุ้งแชบ๊วยหางแดง พบได้ตั้งแต่อ่าวเจริญในตำบลชากพง ไปถึงเขตตำบลแกลง หาดสวนสน ตำบลเพ นอกนั้นไม่พบ จึงถือเป็นการสร้างรายได้แก่กลุ่มประมงเรือเล็ก
โดยแต่ละวัน เรือประมงขนาดเล็กประมาณ 30-50 ลำ จะนำอวนดักกุ้งไปวางในทะเล ก่อนจะทำการกู้อวนภายในเวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นจะนำอวนกลับไปวางใหม่ วนเวียนตลอดทั้งวัน ทำให้สามารถนำกุ้งขึ้นมาได้ไม่ต่ำกว่า 2-3 ตันต่อวัน
ทั้งนี้ เมื่อได้สำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เตรียมจะเสนอพื้นที่นี้ ให้เป็นแหล่งกำเนิด แหล่งเพาะพันธุ์กุ้ง ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งแหล่งซื้ออาหารทะเลสด โดยจะจัดให้มีเทศกาลกินกุ้งทะเล ต่อเนื่องจากเทศกาลผลไม้ ในช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกๆปี
Cr. อัจฉรา //ระยอง