วานนี้ (25 มิ.ย.) ถือเป็นวันฮารีรายา อีดิ้ลฟิฏริ หรือวันเฉลิมฉลอง ชาวไทยมุสลิมหลายพื้นที่ ออกมาประกอบพิธีละหมาดกันเนืองแน่น หลังร่วมถือศีลอด มาตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ในเดือนรอมฎอน
เริ่มที่เครือข่ายองค์กรมุสลิม ชุมชนในพื้นที่จังหวัดยะลา ได้จัดพิธีละหมาด เนื่องในโอกาสวันตรุษอีดิ้ลฟิฏริ หรือ ฮารีรายอปอซอ ฮิจเราะห์ศักราช 1438 ประจำปี 2560 ขึ้น ที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา เพื่อให้ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ ได้ร่วมเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ ในเทศกาลฮารีรายออิดิลฟิตรี หลังจากชาวมุสลิมได้ร่วมถือศีลอดมาตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็มในเดือนรอมฎอน
โดยมีชาวไทยมุสลิม ทั้งชายและหญิง รวมทั้งเด็กๆ กว่า 5,000 คน เดินทางร่วมประกอบพิธีละหมาด ซึ่งการเฉลิมฉลองครั้งนี้ มีนายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต. เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับพี่น้องมุสลิมเนื่องในโอกาสวันตรุษอีดิ้ลฟิฏริด้วย
สำหรับการละหมาดวันตรุษอีดิ้ลฟิฏริ ถือเป็นการปฏิบัติศาสนกิจ ที่มีความสำคัญต่อชาวไทยมุสลิม เป็นอย่างมาก โดยชาวไทยมุสลิม ทั้งชายหญิง จะต้องไปร่วมกันละหมาด โดยพร้อมเพรียงกัน ที่มัสยิดใกล้บ้าน หรือสถานที่ที่จัดให้มีพิธีละหมาด
นอกจากการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว ในแต่ละครอบครัวจะมีการจัดเตรียมอาหารคาว หวาน ขนมต่างๆ ไว้ต้อนรับเพื่อน ญาติพี่น้อง และแขกที่มาเยี่ยม รวมทั้งจะมีการไปเยี่ยมญาติพี่น้อง เพื่อน และออกท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ
รวมทั้งผู้ที่อยู่ต่างถิ่น ก็จะเดินทางกลับมาบ้าน เพื่อรวมตัวกัน ถือเป็นวันรวมญาติอีกวัน ทำให้บรรยากาศวันเฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายอ มีแต่ความสุข ความอบอุ่น
เช่นเดียวกับที่มัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานี และมัสยิดรายอ (จะบังติกอ) ซึ่งเป็นมัสยิดประวัติศาสตร์ ของเจ้าเมืองปัตตานีในอดีต ที่บรรยากาศเป็นไปด้วยคึกคัก จากการเดินทางไปร่วมละหมาดของชาวไทยมุสลิม ในเครื่องแต่งกายชุดเสื้อผ้าใหม่ สวยงาม พร้อมขอพรให้เกิดสันติสุขแก่ตนเอง ครอบครัว และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ไม่ต่างจากจังหวัดนราธิวาส ที่ตลอดช่วงเช้าวานนี้ เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยชาวมุสลิมในพื้นที่ส่วนหนึ่ง เดินทางไปร่วมรำลึกถึงญาติพี่น้อง ที่เสียชีวิตไปแล้ว ตามสุสานต่างๆ ก่อนจะเดินทางไปละหมาด ตามมัสยิดใกล้บ้าน
โดยในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส มีการจัดพิธีละหมาด ที่บริเวณสนามกีฬาเทศบาลเมืองนราธิวาส โดยมีผู้เดินทางมาละหมาดกว่า 2,000 คน และหลังเสร็จสิ้นพิธีละหมาด บางครอบครัวได้ทำพิธีกุรบาน (พิธีเชือดสัตว์) ด้วยการเชือดวัว และนำเนื้อวัวไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ยากไร้ในพื้นที่ต่างๆ
ส่วนบรรยากาศวันฮารีรายอ ที่จังหวัดสงขลา ชาวไทยมุสลิม ได้ออกไปประกอบพิธีละหมาดตามมัสยิดต่างๆ อย่างเนืองแน่น ซึ่งเป็นศาสนกิจสำคัญอันดับแรก ของที่ชาวมุสลิมต้องปฏิบัติ ท่ามกลางความสุข และรอยยิ้ม
โดยหลังละหมาดเสร็จ จะมีการขออภัยซึ่งกันและกัน ในสิ่งที่ได้ล่วงเกิน โดยเฉพาะพ่อแม่ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้าน รวมถึงบางแห่งมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การแจกรางวัลให้กับเด็กๆ ทั้งเงินและขนม รวมถึงการเดินทางออกไปเยี่ยมญาติพี่น้อง และท่องเที่ยวในช่วง 2 - 3 วันหลังจากนี้