คดีฆ่าฝังดินสามเณรปลื้ม ซึ่งมีผลประโยชน์ในวัดเข้ามาเกี่ยวข้อง นำมาสู่การจัดระเบียบวัดต่างๆในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งขณะนี้ทหารมีเป้าหมายตรวจสอบวัดที่มีการบริหารจัดการบัญชีไม่ชัดเจน 11 วัด

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในเป้าหมาย 5 วัด ที่พลตรีอาคม พงศ์พรหม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่41 ได้จัดชุดปฏิบัติการณ์เดินทางเข้าตรวจสอบข้อมูลวันนี้ เนื่องจากพบว่าเป็นวัดที่มีรายได้จำนวนมหาศาลจากเงินทำบุญ แต่การบริหารจัดการบัญชียังไม่ชัดเจน เช่นเดียวกับวัดอีก 4 แห่ง คือ วัดสระโพธิ์ อำเภอเชียรใหญ่ วัดเสาธงทอง อำเภอเมือง วัดอัมพวัน อำเภอนาบอน และ วัดกัลยานิมิต อำเภอถ้ำพรรณรา จากจำนวนวัดที่เข้าข่ายตรวจสอบทั้งจังหวัด 11 วัด

เนื่องจากมีข้อสังเกตว่าวัดบางแห่งแม้จะมีเงินรายได้จากเงินของผู้มีจิตศรัทธาและ มีผลประโยชน์จากการเช่าที่ดินของวัด แต่เมื่อพบว่าปูชนียสถานภายในวัดเสื่อมโทรมกลับต้องใช้งบจากกรมศิลปากรทุกครั้ง ขณะที่บางวัดมีสภาพเหลือเพียงอาคารที่พักสงฆ์เพียงหลังเดียว ส่วนพื้นที่อื่นของวัดหมดสภาพการเป็นวัดไปหมดแล้ว

และในวันเดียวกันผู้นำชุมชนและผู้นำท้องถิ่นในตำบลท้ายสำเภา อำเภอพระพรหม เข้าเจรจากับพันเอกณัฐวุฒิ วงศ์ปาลามานนท์ รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่41และเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนานครศรีธรรมราช เนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าคณะจังหวัด มีคำสั่งถอดถอนเจ้าอาวาสวัดเชิงแตระ ออกจากตำแหน่งตามข้อร้องเรียนเรื่องชาวบ้านบางส่วนที่เชื่อว่าเจ้าอาวาสได้นำที่ดินของวัด เอื้อประโยชน์กับคนบางกลุ่ม ซึ่งพันเอกณัฐวุฒิระบุว่า จะนำข้อมูลไปหารือเพื่อพิจารณาอีกครั้ง

ขณะที่การจัดระเบียบวัดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผลมาจากคดีฆ่าฝังสามเณรปลื้ม ซึ่งเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลายร้อยล้านในวัดวังตะวันตกที่กลุ่มผู้ต้องหา เข้าไปดูแล