ตำรวจจับคนขับรถแท็กซี่ ก่อเหตุกรรโชกทรัพย์ และข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวจีนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พบมีการกระทำความผิดอื้อ ทั้งปลอมทะเบียนรถใช้ขับรถแท็กซี่ ลักทรัพย์ คาดอาจเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง

ตำรวจ สน.คันนายาว ควบคุมตัวนายชัยพัฒน์ กลิ่นสุคนธ์ คนขับรถแท็กซี่ ที่ลงมือก่อเหตุกรรโชกทรัพย์ และข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวจีน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก

หลังจากนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน ให้การว่า ขึ้นรถแท็กซี่จากถนนนวมินทร์ 103 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม เดินทางไปซอยนวลจันทร์ 32 โดยนั่งหน้าคู่คนขับ เนื่องจากเบาะหลังมีของวางอยู่ และเปิด GPS ในโทรศัพท์ไว้คอยดูเส้นทางด้วย

แต่คนขับรถแท็กซี่ กลับเลี้ยวเข้าถนนเกษตร-นวมินทร์ ผู้เสียหายจึงรีบบอกว่า มาผิดทาง ทำให้คนขับรถแท็กซี่แย่งโทรศัพท์มือถือไป พร้อมเอามีดออกมา พูดข่มขู่ขอเงิน ผู้เสียหายจึงหยิบประมาณ 2,000 บาท ส่งให้คนขับแท็กซี่

หลังจากนั้น คนขับแท็กซี่ ลงมือข่มขืนผู้เสียหายในรถแท็กซี่ แล้วทิ้งผู้เสียหายลงข้างทาง ผู้เสียหายจึงขอความช่วยเหลือตำรวจ สน.คันนายาว

ทั้งนี้ จากการสืบสวนขยายผล พบว่า พฤติการณ์การกระทำความผิดของคนขับแท็กซี่คนนี้ ได้ปลอมหมายเลขทะเบียนรถ ซึ่งทะเบียนรถที่แท้จริง เป็นของนายธนากร เพ็ญศรี อายุ 55 ปี ซึ่้งมาให้การเป็นพยานว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของผู้ต้องหาในคดีนี้ด้วย

เนื่องจากมีหนังสือจากกรมการขนส่งทางบกว่า เจ้าของรถหมายเลขนี้ ไม่แสดงป้ายทะเบียนภายในรถ / ขับรถประมาทน่าหวาดเสียว / และไปก่อเหตุลักทรัพย์ เป็นชุดแต่งรถที่จอดอยู่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และไม่ชำระค่าผ่านทางพิเศษ หรือชำระค่าผ่านทางพิเศษไม่ครบ เป็นเงินจำนวน 20 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับคนเจ้าของรถที่แท้จริง

ส่วนอีกคน คือคนที่ถูกขโมยรถไปใช้ก่อเหตุ นายเฉลิมชัย ลีคันธมาต พาทีมข่าวไปดูรถแท็กซี่ของตัวเองที่ถูกขโมยมา เมื่อประมาณเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่จอดเข้าห้องน้ำบริเวณปั๊มน้ำมันย่านรังสิต ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมา ลำบากมาก ไม่มีเงิน เพราะไม่มีรถไปขับแท็กซี่

โดยหลังตำรวจ สน.คันนายาว คุมตัวคนร้ายทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามจุดต่างๆ แล้ว ได้นำตัวฝากขังที่ศาลทันที 

คุมแท็กซี่จี้ชิงทรัพย์-ข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนทำแผน