เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ บุกจับเจ้าของคลินิกเถื่อน หลังฉีดยารักษาอาการปวดแขน ทำให้คนไข้ แต่เกิดแพ้ยาเสียชีวิต หลังกลับบ้านแค่ข้ามวัน
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ บุกเข้าตรวจสอบคลินิก ในซอยโนรี ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังนางสุภาวดี มังคละเสถียร เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการว่า ช่วงเช้าวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตนเองได้พานายวินัย มังคละเสถียร สามี ได้ไปรักษาอาการปวดไหล่
แพทย์คลินิกดังกล่าว วินิจฉัยว่า อาการปวดไหล่ เป็นอาการของกล้ามเนื้ออักเสบ จึงให้ฉีดยา 1 เข็ม ระหว่างนั้นสามี หน้ามืด จนต้องพักในคลินิกชั่วคราว และให้น้ำเกลือ ก่อนจะจัดยา 1 ชุด และให้เดินทางกลับมาที่บ้านพัก
ซึ่งระหว่างนั้น สามีมีอาการแพ้ยา และเสียชีวิตในวันต่อมา (2 ก.ค.) แพทย์ลงใบรับรองการเสียชีวิตว่า ติดเชื้อชั้นผิวหนัง และเนื้อเยื้อ
จากการตรวจค้นคลินิก มีนายวิทยา โตมาซา อายุ 59 ปี รับเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่พบของกลาง เป็นเครื่องมือแพทย์หลายรายการ และใบเวชทะเบียนของนายวินัย ผู้เสียชีวิต จึงคุมตัวนายวิทยา มาสอบสวนต่อที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ
นายวิทยา อ้างว่า ทำงานหลายอาชีพ ทั้งขายเครื่องมือแพทย์ และเรียนด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ ไม่ได้เป็นหมอ แต่ทำหน้าที่ฉีดยาได้ เพราะเคยทำงานอยู่ในสถานพยาบาล มานานกว่า 10 ปี พร้อมอ้างว่า ปกติไม่ได้เป็นผู้รักษาคนไข้เอง โดยจะมีหมอหมุนเวียนกันมาให้การรักษา
พร้อมปฏิเสธว่า สาเหตุที่นายวินัยเสียชีวิต ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง เพราะช่วงเกิดเหตุ ไปจัดรายการวิทยุ และให้ผู้ช่วยพยาบาล อยู่ประจำคลินิก 2 คนดูแล จึงไม่รู้ว่า ใครฉีดยาให้เสียชีวิต
ส่วนอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ยอมรับว่า เป็นของตน แต่ให้คนอื่น เช่าเปิดคลินิก กระทั่งเจ้าของเดิมปิดกิจการ ตนเองจึงเข้ามาทำต่อ นานกว่า 5 ปี โดยจ้างแพทย์มาตรวจคนไข้ แต่วันเกิดเหตุ ไม่ทราบว่า แพทย์คนไหนเข้าเวร
ต่อมา พนักงานสอบสวนได้เชิญตัวนางสุภาวดี ภรรยาผู้เสียชีวิตมาชี้ตัว ให้ยืนยันว่า นายวิทยา เป็นผู้ที่ทำการตรวจรักษาในวันเกิดเหตุ พร้อมนำยาแก้กล้ามเนื้ออักเสบ 3 ซอง และยาแก้แพ้ 1 ซอง มาแสดง
ทำให้นายวิทยา จำนนต่อหลักฐาน สารภาพว่า เป็นคนฉีดยาจริง ตำรวจจึงคุมตัว นายวิทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายรังสรรค์ วงษ์บุญหนัก เภสัชกรชำนานการพิเศษ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ คลินิกดังกล่าวได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่แพทย์เจ้าของเดิม ได้แจ้งยกเลิกไป ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ยังเปิดรักษา จึงจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่กำลังจะเข้าไปตรวจ แต่มาเกิดเหตุก่อน
จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อปี 2558 นายวิทยา เคยถูกแจ้งข้อหา ไม่จัดให้มีแพทย์อยู่ประจำคลินิกไปแล้ว และพบว่า ไม่ได้เรียนจบด้านแพทย์ แต่อาศัยเคยเป็นลูกมือในคลินิกเปิดทำเอง
เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้ง 4 ข้อหาคือ รักษาพยาบาล โดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ / ให้ผู้อื่นประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล / กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึง 10 ปี และผู้รับอนุญาตต้องจัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพตามกฎหมายกำหนด ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท
ส่วนศพของนายวินัย ญาติได้ตั้งบำเพ็ญกุศลคืนแรก ที่วัดน้อยสุวรรณนาราม อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรปราการ บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
นางสุภาวดี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนนี้ ยังไม่มีความช่วยเหลือ หรือการแสดงความรับผิดชอบ จากทางคลินิกดังกล่าว ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ก็ดีขึ้น แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ กับการสูญเสียครั้งนี้ และขอความเป็นธรรมให้กับสามีด้วย