ชาวบ้านในจังหวัดฉะเชิงเทรา ถูกสุนัขจรจัดไล่กัดขณะไปทำบุญวันอาสาฬหบูชาที่วัด มีผู้บาดเจ็บ 5 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก 3 ขวบถูกกัดที่ใบหน้าอาการสาหัส โดยชาวบ้านเชื่อว่า สุนัขน่าจะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าด้วย
เด็กหญิงชาวกัมพูชาวัย 3 ขวบ ถูกนำส่งมารักษาที่โรงพยาบาลบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังถูกสุนัขกัดที่ใบหน้า แต่เนื่องจากเป็นแผลฉกรรจ์ 5 แผล แพทย์จึงเตรียมส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพุทธโสธร โดยเด็กหญิงยังร้องไห้ตลอดเวลา เพราะความเจ็บปวด นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บจากการถูกสุนัขกัดตามร่างกายอีก 4 คน ซึ่งมีทั้งวัยรุ่นและผู้สูงอายุ และในจำนวนนี้อาการสาหัสอีก 1 คนต้องส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอีกแห่งเช่นกัน
สอบถามผู้บาดเจ็บและชาวบ้านที่เกิดเหตุเล่าว่า ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกสุนัขกัดขณะเดินไปทำบุญวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษาที่วัดบางเกลือ ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลบางเกลือ อำเภอบางปะกอง
โดยสุนัขที่กัดเป็นพันธุ์ไทย รูปร่างใหญ่เต็มวัยสีแดงส้มอมเหลือง และมีลักษณะ คอแข็งวิ่งตัวตรงและหางตก เชื่อว่ามีเชื้อพิษสุนัขบ้า และน่าจะเป็นสุนัขจรจัดเพราะไม่เคยมีใครในหมู่บ้านเห็นมาก่อน
และก่อนหน้าที่จะไปกัดชาวบ้าน 5 คน เมื่อช่วงเช้าสุนัขตัวนี้ ได้วิ่งไปในบ้านของนายสนม ขำใบ ที่อยู่ติดวัดและพยายามไล่กัด แต่มีแมวที่นายสนมเลี้ยงไว้มาขวางช่วยเจ้านายจนถูกกัดตาย ทำให้นายสนม ต้องใช้ไม้ไล่ตีจนวิ่งเตลิดออกจากบ้านไป กระทั่งมาทราบภายหลังว่าไปกัดชาวบ้านในวัด
ขณะที่ชาวบ้านที่ถูกสุนัขกัด ส่วนใหญ่บอกว่า หลังบาดเจ็บนอกจากจะกังวลว่าจะติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแล้ว ต่างคนก็ยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง โดยเฉพาะหญิงที่เป็นแม่ของเด็กหญิง 3 ขวบที่อาการสาหัสและมีฐานะยากจน จึงตั้งคำถามถึงมาตรการดูแลควบคุมสุนัขจรจัดจากภาครัฐ ซึ่งอนุมัติ พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ด้วยว่ าจะดูแลกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบอย่างไร