"นายจตุพร พรหมพันธุ์" แนะกองทัพเปิดกว้าง ปฏิรูปตัวเอง ไม่ใช่ปฏิรูปเฉพาะตำรวจ เชื่อทหารก็มีปัญหา มีทั้งคนดี-ไม่ดีเหมือนองค์กรอื่นเช่นกัน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ส่วนตัว ในหัวข้อเรื่อง "อย่าปฏิรูปเฉพาะตำรวจเพียงหน่วยงานเดียว เมื่อให้ทหารเป็นหัวแถวการปฏิรูปตำรวจก็ควรจะให้ตำรวจเป็นหัวแถวในการปฏิรูปทหาร" ตอนหนึ่งว่า ความจริงไม่ใช่เป็นเรื่องของการประชดประชัน แต่เป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่าทุกองค์กรในประเทศไทยเป็นปัญหา ไม่ใช่เฉพาะตำรวจเพียงองค์กรเดียว ทหาร ข้าราชการ พรรคการเมือง หน่วยงานต่างๆ แม้กระทั่งภาคประชาชน ก็ต้องปฏิรูปกันทั้งนั้น แต่หลายฝ่ายกำลังมองว่า หน่วยงานที่เป็นปัญหาและต้องได้รับการปฏิรูป คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งส่วนตัวมองว่า เรื่องคนดี คนไม่ดีมีทุกองค์กร และบางหน่วยงานแตะต้องไม่ได้

นายจตุพร ยังกล่าวต่อว่า ปัจจุบันตำรวจ ก็อยู่ภายใต้การควบคุมของทหารอยู่แล้ว แต่หากจะมีการปฏิรูปตำรวจในทุกมิติ หารเองควรเปิดกว้างให้มีการปฏิรูปทหารด้วย เพราะเชื่อว่าทหารก็มีปัญหาทหาร  มีคนดีและคนไม่ดีเหมือนกับทุกหน่วยงาน ตนเองจึงอยากเห็นการปฏิรูปทหาร  ปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปทุกหน่วยงานราชการ

 

"พล.ท.สรรเสริญ" ขึ้นสวน "จตุพร" ยันกองทัพปฏิรูปตัวเอง

ขณะที่ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายจตุพร เรียกร้องให้กองทัพเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปเหมือนกับตำรวจ ว่า ทุกวันนี้กองทัพก็มีการปฏิรูปตัวเองอยู่แล้ว จึงต้องย้อนถามนักการเมืองเช่นกัน ว่า การที่กองทัพต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองในครั้งนี้ เพราะความไม่สงบเรียบร้อย ที่นักการเมืองก่อเอาไว้ ส่งผลให้กองทัพมีความจำเป็นต้องเข้ามาหรือไม่ แต่ถ้าหากบ้านเมืองมีความสงบและเรียบร้อยปกติสุขไม่ทะเลาะเบาะแว้งฆ่าฟันกันทั้งเมืองทหารจะเข้ามาทำไม

ด้าน พันเอกวินธัย สุวารี โฆษก คสช. กล่าวถึงว่า ที่ผ่านมากองทัพได้มีการปรับตัวเรื่อยมาตามลำดับ ในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่ภารกิจทางการทหาร และภารกิจที่ไม่ใช่สงคราม โดยเฉพาะบทบาทในการช่วยเหลือและพัฒนาประเทศ ที่ระยะหลังได้รับสัญญาณค่อนข้างบวก แม้ว่าภารกิจของทหารในภาวะปกติไม่ใช่การให้บริการ ในลักษณะสัมผัสโดยตรงกับประชาชนเหมือนหลายๆ องค์กร แต่ทุกหน่วยงานในสังกัดยังคงมีการสำรวจเพื่อปรับตัวให้งานในแต่ละด้านมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการในภาพรวมของประเทศ สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและเวลาที่เปลี่ยนไป

สำหรับเสียงเรียกร้องฯ จากบางบุคคลเชื่อว่ากองทัพพร้อมรับฟังอย่างมีเหตุมีผล แต่ไม่อยากให้จำกัดอยู่เฉพาะบางกลุ่มบางพวก ที่สังคมส่วนใหญ่มองไปว่าอาจเป็นเรื่องของการเมือง หรือเข้าใจว่า เป็นข้อเรียกร้องจากกลุ่มที่เสียประโยชน์จากการทำหน้าที่ของทหารในช่วงภาวะพิเศษช่วงนี้เท่านั้น

"จตุพร" ท้าทหารใจกว้าง ควรปฏิรูปกองทัพ ไม่ใช่เฉพาะตำรวจ