ประธานศาลอุทธรณ์ แถลงเสียงสะอื้น หลังมีข่าวถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงการปฏิบัติงาน หลังไม่ผ่านการคัดเลือกเป็นประธานศาลฎีา และยังมีกระแสข่าว เตรียมถูกย้ายไปนั่งเป็นที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา แต่เจ้าตัว ยืนยันไม่คิดลาออก ย้ำตลอดชีวิตไม่เคยทำสิ่งไม่ดี
วานนี้ ที่สำนักงานศาลอุทธรณ์ ถ.รัชดาภิเษก นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังจากมีกระแสข่าวคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) เปิดตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา เพื่อย้ายนายศิริชัย มาดำรงตำแหน่ง และเสนอตั้งกรรมสอบสอบข้อเท็จจริงถึงการปฏิบัติราชการจนไม่ผ่านการคัดเลือกเป็นประธานศาลฎีกา รวมทั้งมีการกล่าวหาว่า นายศิริชัย มีปัญหาในการบริหารศาลอุทธรณ์ โดยเฉพาะเรื่องการเพิกถอนการโอนสำนวนในคดีต่างๆ ด้วย
โดยนายศิริชัย กล่าวว่า เรื่องมติของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เรื่องเสนอตั้งกรรมการสอบสวน และเสนอ ก.บ.ศ.เปิดตำแหน่งที่ปรึกษาฯ นั้นยังไม่ได้รับทราบทางการจาก ก.ต. และไม่แน่ใจว่า ตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเห็นว่า ศาลจะตั้งตำแหน่งใหม่เองโดยไม่ผ่านรัฐสภา
สำหรับแนวทางปฏิบัติเดิมตามนิติประเพณี หากไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานศาลฎีกา ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่เดิมต่อไป แต่ตนอาจเป็นคนแรกที่ถูกย้ายออกจากตำแหน่งเป็นคนแรก
นายศิริชัย กล่าวยืนยันว่า ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและไม่เคยมีเรื่องทุจริต แต่ถ้าหากมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตนเองไม่เคยกลัว เพราะชีวิตไม่เคยทำสิ่งไม่ดี แต่ถ้าจะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงก็ไม่ขัดข้อง เพราะต้องขึ้นอยู่กับก.ต. ตนไม่สามารถลิขิตเองได้
ประธานศาลอุทธรณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า ตอนนี้ยังไม่คิดลาออกเพราะยังรักสถาบันนี้อยู่ทำงานเป็นผู้พิพากษามานานกว่า 40 ปี ไม่อยากจะพูดอะไรที่มันอยู่ในอกตอนนี้ เพราะถือว่าเจ็บปวดรวดร้าว หากพูดไปเกรงว่า สถาบันจะเสียหายจึงขอเก็บความรู้สึกไว้ก่อนจนกว่าจะไม่ไหว เพราะถือว่าตนโดนกระทำอยู่ตลอด พร้อมยืนยันว่า ตนยังรักองค์กรอยู่
ราชกิจจาฯ ประกาศกำหนดตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา
ล่าสุดวานนี้ราชกิจจานุเบกษา ได้ลง “ประกาศคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม” เรื่องกำหนดตำแหน่งและเทียบตำแหน่งข้าราชการตุลาการที่เรียกชื่ออย่างอื่น มีเนื้อหาระบุว่าอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 วรรคสอง แห่งพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ.2543
คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม กำหนดให้มีตำแหน่ง “ที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา” โดยเทียบกับตำแหน่งข้าราชการตุลาการ “ประธานศาลอุทธรณ์” ตามมาตรา 11 วรรคหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.60 เป็นต้นไป ซึ่งประกาศดังกล่าว ได้ ลงชื่อ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกาและประธานกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ทั้งนี้ตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งของตุลาการศาลยุติธรรม เป็นตำแหน่งที่กำหนดขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ
หลังจากนี้ต้องรอติดตามผลการประชุม ก.ต.ในวันที่ 17 ก.ค.นี้ว่าจะมีการลงมติเห็นชอบบัญชีรายชื่อให้ นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์ ไปดำรงตำแหน่งดังกล่าวหรือไม่
สำหรับเรื่องดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) มีมติเป็นเอกฉันท์ไม่เห็นชอบนายศิริชัย ที่มีความอาวุโสสูงสุดขึ้นมาเป็นประธานศาลฎีกา เพราะเป็นผู้ไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำหน่งประธานศาลฎีกา ต่อจาก นายวีระพล ที่จะเกษียณอายุราชการ
ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุม (ก.ต.) มีมติเอกฉันท์ 14 เสียง เห็นชอบให้นายชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาคนที่ 44 ต่อไป โดยนายชีพ ถือเป็นผู้มีอาวุโสสูงสุดเป็นลำดับที่ 2 ต่อจากนายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์