ที่จังหวัดราชบุรี เกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปขโมยของภายในบ้านของประชาชน 2 เหตุการณ์ หนึ่งในนั้นเป็นบ้านของอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนที่แล้ว ทรัพย์สินสูญหายกว่า 2 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน สถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี เข้าตรวจสอบสภาพของตู้เซฟที่ถูกคนร้ายทุบขโมยทรัพย์สิน ภายในบ้านพักเลขที่ 7/10 ซอยวิศวะ 5 ถนนเพชรเกษม ตำบลหน้าเมือง ของนายแพทย์มงคล จิตรวัฒนากร อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี ซึ่งเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนที่แล้ว ตรวจสอบรอบตู้เซฟเจ้าหน้าที่พบกล่องกำมะหยี่ รวมถึงถุงผ้าสำหรับใส่ทองรูปพรรณ และเครื่องประดับต่างๆ ตกอยู่มากกว่า 30 ชิ้น
สอบถามนายประสิทธิ์ จันดา ผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าว เล่าว่า หลังจากนายแพทย์มงคล เสียชีวิตไปแล้ว บ้านหลังนี้ก็เหลือแค่เพียงภรรยาของผู้ตายอาศัยอยู่เพียงคนเดียว
กระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ภรรยาของผู้ตายได้ฝากบ้านไว้กับตน เพื่อไปทำธุระที่ต่างจังหวัด จนกระทั่งเช้าของอีกวัน ตนเข้ามาตรวจสอบที่บ้านและพบตู้เซฟถูกนำออกมาทุบข้างนอกแล้ว ส่วนข้าวของภายในบ้านนั้นยังไม่ทราบว่ามีอะไรหายไปบ้าง
เจ้าหน้าที่จึง่ได้ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของบ้าน จนทราบว่าทรัพย์สินที่อยู่ในตู้เซฟมีชุดเครื่องเพชร 1 ชุด มูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท พระเหลี่ยมทองมากกว่า 5 องค์ แหวนทองหลายวง สร้อยข้อมือทองหลายเส้น และเงินสดมากกว่า 50,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 2 ล้านบาท
บ้าน นศ.หญิงถูกโจรงัด สูญสร้อยทอง 19 บาท-พระเหลี่ยมทอง 10 องค์
ส่วนอีกเหตุหนึ่งนั้น เกิดขึ้นบ้านเลขที่ 326 ถนนเพชรเกษมซอย 9 ตำบลโคกหม้อ อำเภอเมืองราชบุรี ซึ่งเป็นบ้าน ของ นางสาวธมนวรรณ รัตนสิริลักษณ์ อายุ 21 ปี นักศึกษาหญิงของสถาบันแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ตรวจสอบภายในบ้าน พบว่าที่บริเวณประตูด้านหลัง มีร่องรอยถูกงัดจนบานพับประตูหลุดหายไป ส่วนข้าวของภายในบ้าน ถูกรื้อค้นจนกระจัดกระจายไปทั่ว
นางสาวธมนวรรณ เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้กับพ่อเพียง 2 คน และช่วงเช้าตนได้ออกจากบ้านไปฝึกงานตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน ส่วนพ่อของตนนั้นออกจากบ้านไปธุระ ในช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. กระทั่งตนกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น ก็พบว่าที่บริเวณประตูหลังบ้านนั้นเปิดอยู่ และข้าวของนั้นถูกรื้อค้นกระจุยกระจายไปหมดแล้ว
ตนจึงรีบไปตรวจทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน ก่อนจะพบว่าสร้อยคอทองคำที่เก็บไว้ 19 บาท และพระเหลี่ยมทององค์เล็กๆ ที่เก็บสะสมไว้อีกกว่า 10 องค์หายไปหมด รวมถึงแท็บเล็ตอีก 1 เครื่องด้วย ส่วนทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ นั้นต้องรอให้พ่อของตนเดินทางกลับมาก่อน เพราะไม่ทราบว่าของพ่อมีอะไรหายไปบ้าง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะรู้ว่าบ้านหลังนี้ช่วงกลางวันไม่มีใครอยู่ จึงได้ย่องเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบหาคนร้าย ที่คาดว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่าสองคนมาดำเนินคดีต่อไป