บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หลายพื้นที่คึกคัก โดยที่จังหวัดบุรีรัมย์ นักท่องเที่ยวพาบุตรหลานไปเล่นน้ำ ที่เขื่อนลำนางรอง กันอย่างสนุกสนาน
บรรยากาศท่องเที่ยว บริเวณหาดทรายเทียมเขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ เป็นไปด้วยความคึกคัก ช่วงวันหยุด เสาร์ -อาทิตย์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างพาครอบครัวไป เล่นน้ำเฉลี่ยวันละ 1-2 พันคน
ผู้ประกอบการให้บริการเช่าห่วงยางและเสื้อชูชีพ เปิดเผยว่า แม้ช่วงนี้ จะเป็นช่วงหน้าฝน แต่สภาพอากาศยังคงอบอ้าว นักท่องเที่ยวในจังหวัด และต่างจังหวัด พาครอบครัว เดินทางมาเที่ยวพักผ่อน
ส่งผลให้ช่วงวันหยุด มีรายได้จากการให้บริการเช่าห่วงยาง เสื้อชูชีพ เฉลี่ยวันละกว่า 1,000 บาท จากปกติวันละไม่ถึง 500 บาท
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งชมบรรยากาศยามเย็น ลักษณะคล้ายกับอยู่ทะเล เพื่อรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม ทำให้ผู้ประกอบการบริเวณริมเขื่อนลำนางรอง ต่างมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปกติ ตามไปด้วยเช่นกัน
พาไปต่อที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อชมความงามของทุ่งดอกนิลุบล หรือที่ชาวอีสานเรียกว่า ดอกอีฮีน ที่กำลังชูช่อบานสะพรั่งกลางนาข้าว ในพื้นที่บ้านหนองเม็ก หมู่ 2 ตำบลหนองช้างใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ ผู้ที่ขับผ่านไปมา เมื่อพบเห็น ต้องจอดรถเพื่อเซลฟี่รูปคู่ไว้เป็นที่ระลึก
นายแหงม คุณป้อง เจ้าของพื้นที่ดังกล่าวเล่าว่า ดอกอีฮีน ได้บานสะพรั่งในพื้นที่ตนเอง 2 แปลง เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่เศษ โดยจุดที่ดอกอีฮีนชูช่อนั้น ก็มีต้นข้าวขึ้นแซม เป็นช่วงๆ
ตนเองทำนามาตลอดชีวิต ก็เพิ่งเคยเห็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติเป็นครั้งแรก จึงไม่ต้องการไปแตะต้องหรือตัดออก ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้ช่วงนี้ผู้ที่ขับรถผ่านไปมาแถวนั้น จะแวะเข้ามาดูความงดงาม และถ่ายภาพไปเป็นที่ระลึก
ส่วนที่ดอกอีฮีนมาออกดอกในที่นา คาดว่า มาจากในพื้นที่มีฝนตก และมีน้ำขัง อาจเป็นปัจจัยให้ดอกไม้ประจำถิ่นชนิดนี้ ออกดอกมาให้ได้เห็น
สำหรับดอกอีฮีน เป็นวัชพืชน้ำชนิดหนึ่ง ขึ้นเองตามธรรมชาติ ลักษณะทั่วไปคล้ายผักตบ แต่ขนาดเล็กกว่า พบได้ทั่วไปตามทุ่งนาที่มีน้ำขัง หรือตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ดอกอีฮีน เป็นผักพื้นเมือง ที่ชาวบ้านนิยมนำไปกินกับเมนูลาบ หรือกินกับน้ำพริก
ลำต้นจะชูช่อช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน แล้วจะเหี่ยวเฉาตายไปเอง แต่เป็นเรื่องยากที่ดอกอีฮีน จะเจริญเติบโต และบานสะพรั่งเต็มท้องนาแบบนี้
ส่วนนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ แนะนำให้ไปที่วัดภูถ้ำพระ ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพระ ในพื้นที่บ้านหินโหง่น ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร เพื่อกราบไหว้ พระพุทธรูปโบราณ อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี เพื่อความเป็นสิริมงคล ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย
และยังสามารถไปเที่ยวชมความงามของถ้ำอื่นๆ เช่น ถ้ำเค็ง / ถ้ำงูซวง / ถ้ำเกลี้ยง และถ้ำพรหมบุตร ซึ่งในอดีตถ้ำเหล่านี้ เคยเป็นสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนาของเกจิอาจารย์ชื่อดัง ของภาคอีสานหลายรูป
และบนยอดเขาแห่งนี้ ยังมีลานหินมากมาย เหมาะสำหรับเป็นสถานที่กางเต็นท์ พักแรม เพื่อสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
ปัจจุบันนี้ ทางวัดภูถ้ำพระ กำลังอยู่ระหว่างสร้างพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 7 เมตร สูง 9 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา เพื่อเอาไว้ให้ชาวพุทธได้ไปสักการะกราบไหว้ และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจด้วย
ปิดท้ายที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เชิญชวนนักท่องเที่ยวไปที่เม่งเหมียวเซี่ยงตั้ว หรือ มูลนิธิมุทิตาจิตธรรมสถาน ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อกราบไหว้องค์เทพต่างๆ
รวมถึงสักการะ องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม แกะสลักจากหินแกรนิตขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีจำนวนหินแกรนิตขาว 108 ชิ้น/มีความสูงจากฐานบัว 12 เมตร ความสูงจากพื้นดิน รวม 18 เมตร มูลค่า 40 ล้านบาท
ซึ่งองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม แกะสลักจากหินแกรนิตขาวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแห่งนี้ มีผู้ศรัทธาจากทั่วประเทศ และในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางมาขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข และร่วมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก