ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่วังน้ำเขียว ติดตามร่วมมือภาครัฐ-ประชาชน แก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกว่า 2 แสน 6 หมื่นไร่ พร้อมกำชับให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดิน ไม่ให้เกิดการทับซ้อนระหว่างที่ดินประชาชนกับที่ดินของรัฐ
พลเอกวิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าสงวน และ พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน หลังจากมีปัญหายืดเยื้อยาวนานกินพื้นที่กว่า 2 แสน 6 หมื่นไร่
โดยมีชาวบ้านกว่า 5 พันคน ร่วมให้ข้อมูล เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาจากการร้องเรียนเกี่ยวกับการถือครองที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ อำเภอปักธงชัย อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา และ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี มีพื้นที่รวมกว่า 1 ล้าน 3 แสนไร่
การลงพื้นที่ในอำเภอวังน้ำเขียวเป็นอันดับแรก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการร้องเรียนมายังผู้ตรวจการแผ่นดิน และเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ผ่านมา พบว่า เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เฉพาะในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียวกินพื้นที่กว่า 2 แสน 6 หมื่นไร่ และ สรุปประเด็นปัญหาที่ต้องแก้ไขได้ 5 ข้อ คือ
1.เพื่อให้มีการแก้ไขข้อมูลหรือแผนที่ประกอบพระราชบัญญัติอุทยานให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงและทำให้กฎหมายมีความถูกต้องชอบธรรมไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและรักษาประโยชน์ของรัฐ
2.ให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนำการสำรวจแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานในปี 2543 และ แนวกันไฟเป็นหลักในการแก้ไขปัญหาการทับซ้อนของพื้นเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตพื้นที่สปกบริเวณอุทยานแห่งชาติทับลาน
3.ให้กรมป่าไม้รับข้อคิดเห็นกรณีการกำหนดพื้นที่เขาแผงม้าให้เป็นโซนCนั้นให้มีความถูกต้องสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเขตป่าสงวนแห่งชาติอำเภอวังน้ำเขียว
4.ผู้ตรวจการแผ่นดินจะประสานงานกับอัยการสูงสุดในระหว่างการดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อให้มีการชะลอการดำเนินคดีต่อราษฎรที่ถูกฟ้องร้องกรณีปัญหาเขตทับซ้อนของอุทยานแห่งชาติทับลานกับเขตที่ดินที่ราษฎรประกอบอาชีพอยู่
และ 5.ผู้ตรวจการแผ่นดินจะนัดหมายพบปะหารือเพื่อแสวงหาแนวทางในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาการทับซ้อนแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานตลอดจนป่าในอำเภอเสิงสางและอำเภอครบุรี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินงานของศูนย์แก้ไขปัญหาอุทยานแห่งชาติทับลานว่าจะมีขั้นตอนและกรอบเวลาดำเนินงานอย่างไร