หลายจังหวัดเปิดงานตลาดชุมชนในพื้นที่และตลาดต้องชม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชุนให้เข็มแข็งอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการรักษาขนบธรรมเนียม ศิลปวัฒนธรรมของแต่ชุมชน

นางวิไลวรรณ ทัพวงศ์ศรี ที่ปรึกษาการพาณิชย์ พร้อมด้วยนายไพบูรณ์ ณะบุตรจอม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยและนางพรรณสิริ กุลนาถศิริ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุโขทัย ร่วมกันเปิดงาน ตลาดต้องชม บริเวณถนนคนเดินเมืองสุโขทัยธานี เพื่อเคลื่อนนโยบายสร้างความเข้มแข็งในระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น เชื่อมโยงและกระจายผลผลิต เป็นช่องทางการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน โดยมุ่งเน้นความเป็นเอกลักษณ์พาณิชย์ หรือลักษณะเฉพาะของการค้าที่มีประสิทธิภาพและเป็นธรรม

นอกจากนี้ ตลาดต้องชม ยังเป็นสถานที่ ให้คนในท้องถิ่นหรือผู้มาเยือนจากต่างถิ่นต่างต้องแวะมาชม และแวะเวียนเข้ามาเพื่อจับจ่ายใช้สอย สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ควบคู่ไปกับการรักษาขนบธรรมเนียม ศิลปวัฒนธรรมของชุมชน ภายใต้การดำเนินงานในรูปแบบประชารัฐ เพื่อให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน

ซึ่งภายในงานได้จัดให้มีสินค้าท้องถิ่น สินค้าพื้นเมืองจากชุมชน มาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก โดยจะจัดทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป

ส่วนที่จังหวัดลำปาง เปิดงาน "รวมพลคนคาวบอย" ครั้งที่ 4 ประจำปี 2560 ในกิจกรรมท้าเที่ยวข้ามภาค "เก๋ายกก๊วนชวนประลองอาชาแดนรถม้าเวียงละกอน" ระหว่างวันที่ 22–23 กรกฎาคมนี้ ที่ฟาร์มสันลมจอยแอมแรนซ์ ริมถนนสายลำปาง–เชียงใหม่

โดยจังหวัดลำปางได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ ให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้รักม้าและชื่นชอบการขี่ม้าได้เดินทางข้ามภาคมาเที่ยวและทำกิจกรรมเกี่ยวกับม้าในรูปแบบคาวบอย

เนื่องจากในอดีต กว่า 100 ปีที่ผ่านมา ชาวจังหวัดลำปาง ใช้ม้าเป็นยานพาหนะ ทั้งการลากรถ ขนส่งสินค้า การเดินทางไปตามที่ต่างๆ ในเขตตัวเมืองลำปาง กระทั่งปัจจุบันนี้รถม้ากลายเป็นเอกลักษณ์ สำคัญด้านการท่องเที่ยวของ จังหวัดลำปาง เมื่อใครมาท่องเที่ยวที่จังหวัดลำปาง ก็ต้องนั่งรถม้าชมเมือง นับเป็นหนึ่งใน 12 เมืองต้องห้ามพลาดด้านการท่องเที่ยว

ซึ่งในปีนี้มีผู้เลี้ยงม้าและขี่ม้า จาก 20 ฟาร์มทั่วประเทศ ได้นำม้ากว่า100 ตัว มาร่วมงานด้วย เพื่อร่วมกิจกรรม แข่งขันกีฬาขี่ม้าในรูปแบบ ThailandCowboyExtreme กิจกรรมขี่ม้าอ้อมถัง แข่งม้าวิ่งซิ่งแซกและขี่ม้าบัดดี้เป็นต้น

นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงเกี่ยวกับคาวบอย การจำหน่ายอาหาร ให้เที่ยวช๊อปชิมกับเมนูอาหารในแบบตะวันตก และการจำหน่ายสินค้าจากร้านค้าสไตล์คาวบอยสไตล์อินเดียน พร้อมทั้งสินค้าโอทอปและของดีสินค้าชุมชนในจังหวัดลำปางอีกด้วย

ส่วนที่บ้านคำแคนพัฒนา ตำบลนาสะแบง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ นางกุลณี อิศดิศัย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดตลาดต้องชมแห่งที่ 2 ของจังหวัดบึงกาฬ ภายไต้ชื่อ "ตลาดสมุนไพรภูทอก @ บึงกาฬ " เพื่อเป็นการต่อยอดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ของจังหวัดบึงกาฬให้มีความเข้มแข็ง

โดย"ตลาดสมุนไพรภูทอก @ บึงกาฬ " นอกจากจะเป็นตลาดสมุนไพรแล้ว ยังมีสินค้าในชุมชน ผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าโอทอป ขึ้นชื่อของจากจังหวัดบึงกาฬ มาจำหน่ายด้วย เพื่อช่วยเหลือประชาชน กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตสินค้า OTOP ตลอดจนประชาชนในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง ได้มีสถานที่จำหน่ายสินค้าโดยตรงแก่ผู้บริโภค และเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้เสริมนอกเหนืออาชีพหลัก ด้วย

ส่วนที่สนามโรงเรียนบ้านหนองแก ตำบลกุดชุม อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร / จัดงาน "วันลำไยหวาน" ในโครงการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร ประจำปี 2560 เพื่อให้ประชาชนทั่วไป ได้รู้จักพืชเศรษฐกิจของเกษตรกรในอำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร เช่น ลำไย แก้วมังกร แตงโม และมะขามหวาน

อีกทั้งเป็นการสร้างรายได้ ขยายโอกาสในการประกอบอาชีพ และเพื่อเปิดตลาดการค้าผลผลิตทางการเกษตรในอนาคต ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนและเกษตรกร โดยเฉพาะลำไยและแก้วมังกร ที่ชาวบ้านนิยมปลูกกันเป็นจำนวนมาก จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้นำผลิตผลทางการเกษตรออกไปจำหน่ายสร้างรายได้

ทั้งนี้ภายในงานนอกจากจะมีการจำหน่ายลำไยและผลิตผลทางการเกษตรของชาวบ้านแล้ว ยังยังมีการประกวดลำไยที่หวานที่สุด และประกวดธิดาลำไยหวานอีกด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นจำนวนมาก

ปิดท้ายที่จังหวัดสมุทรปราการ นายชาติ ขายอุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดงานเทศกาล "เพลินอดีตติดเสน่ห์วันวานเที่ยวตลาดโบราณบางพลี" ระหว่างวันที่ 22-28 กรกฎาคม2560 ณตลาดโบราณบางพลี

ภายในงานจะมีจุดถ่ายภาพสำหรับนักท่องเที่ยว กิจกรรมแสดงความบันเทิงสไตล์ย้อนยุค อาหารโบราณที่หาชิมได้ยาก และสินค้าต่างๆมาให้ชม และเลือกซื้อเป็นจำนวนมา โดยมีพ่อค้า - แม่ค้า ซึ่งเป็นคนดั้งเดิมของพื้นที่ แต่ชุดไทยคอยบริการ

ตลาดโบราณบางพลี ถือเป็นตลาดไม้โบราณที่ตั้งอยู่ริมคลองสำโรง ซึ่งเป็นตลาดชุมชนเก่าแก่ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2400 จนถึงปัจจุบันยังคงวิถีชีวิตความเป็นไทย นับว่าเป็นชุมชนเก่าแก่ ที่ดำรงชีวิตด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งชาวจีน ชาวไทย ชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างเรียบง่าย รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่ยังคงสภาพเดิมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

และยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้สามารถเข้ามาเรียนรู้ชีวิตชาวชุมชนท้องถิ่น และกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งผลให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ส ร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน เพื่อก่อให้เกิดเศรษฐกิจชุมชนที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน