"นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เชื่อ ผลคำพิพากษาคดีจำนำข้าว วันที่ 25 สิงหาคมนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์การเมืองร้อนแรงขึ้น และ การสร้างความปรองดอง ขอทุกฝ่ายเคารพกระบวนการยุติธรรม
"อภิสิทธิ์" เผย ผลคดีจำนำข้าว ไม่ส่งผลการเมือง-กระทบปรองดอง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีศาลฏีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเตรียมพิพากษาตัดสินคดีจำนำข้าวของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคดีขายข้าวจีทูจีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ว่า จะไม่กระทบต่อการสร้างความปรองดอง และ ไม่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรงขึ้น เพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบและทุกคนต้องพยายามไม่ให้มีความร้อนแรง หรือความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก
และขอให้ทุกฝ่ายเคารพกระบวนการยุติธรรม เพราะรากฐานที่สำคัญของกระบวนการประชาธิปไตย คือ การมีกระบวนการยุติธรรม ที่จะพยุงหลักนิติรัฐและนิติธรรม แต่หากไม่เคารพ เมื่อถึงจุดหนึ่งสังคมก็จะมีความขัดแย้งไม่จบสิ้น ไม่สามารถหาความถูกต้องจะกลายเป็นอนาธิปไตย
"วิรัตน์" เผย คดีจำนำข้าวมีสองขยัก "ยิ่งลักษณ์" ยังอุทธรณ์ได้
ขณะที่ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คดีนี้สังคมวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้เป็นจำนวนมากว่า ผู้ถูกกล่าวหาจะหนีหรือไม่หนี และ มีสื่อมวลชนสอบถามมาก ซึ่งตนเองไม่สามารถตอบแทนได้ว่า จะหนี หรือไม่หนี
แต่ถ้าจะหนีในคดีนี้ ต้องทำความเข้าใจขั้นตอนของคดีตามที่รัฐธรรมนูญปี 2560 บัญญัติไว้ก่อนว่า คดีนี้มี 2 ขยัก คือขยักที่ 1 พอศาลฯ ตัดสินแล้ว ขยักที่ 2 จำเลยมีสิทธิ ที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลได้ ตามที่รัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนด หากศาลให้ประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์ประกันตัวที่สูง
"หมอเหวง" อย่าห้ามคนให้กำลังใจ "ยิ่งลักษณ์"
ด้านเหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. กล่าวถึงกรณีที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ออกมาระบุ ว่า จะดำเนินการกับผู้ก่อความวุ่นวายนั้น ส่วนตัวเห็นว่า ไม่ควรออกมาห้ามชประชาชน ที่ต้องการมาให้กำลังใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ เพราะยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้คนออกมา โดยเฉพาะวันที่ 25 สิงหาคม ที่ศาลจะพิพากษาตัดสินคดีจำนำข้าว
ตลท.เชื่อศาลนัดพิพากษาคดีจำนำข้าวไม่กระทบตลาดหุ้นไทย
ขณะที่ นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. เชื่อเหตุการวันที่ 25 สิงหาคม จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวในตลาดทุน เนื่องจากประเทศไทยได้เคยผ่านเหตุการณ์ในลักษณะนี้ หรือ ความขัดแย้งความรุนแรงหลายครั้งแล้ว ซึ่งส่งผลทำให้ตลาดทุนมีภูมิคุ้นกันมากพอสมควร
อีกทั้ง นักลงทุนต่างชาติเข้าใจในสถานการณ์ดีอยู่แล้ว เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นเรื่องที่มีพัฒนาการมาเป็นระยะ
ขณะที่ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้มีการเตรียมพร้อมของระบบ เพื่อรองรับต่อเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหากมีความเคลื่อนไหวในตลาดทุนที่รุนแรง