หนุ่มชาวจังหวัดอุบลราชธานี สุดงง มีหมายเรียกจากศาลกำแพงเพชร มาถึงบ้าน โดยระบุว่า เป็นหนี้เพราะกู้ซื้ออุปกรณ์ทำเล้าหมูกว่า 4 แสนบาท เจ้าตัว ยืนยัน ไม่ได้เลี้ยงหมู และไม่เคยเดินทางไป จ.กำแพงเพชร
เมื่อวานที่ผ่านมา ( 23 ก.ค.2560) นายมน พูนสวัสดิ์ อายุ 71 ปี ชาวบ้าน อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนในพื้นที่ ว่า มีหมายเรียกจากศาลจังหวัดกำแพงเพชร มาถึง นายสุทิน พูนสวัสดิ์ อายุ 33 ปี ลูกชาย โดยข้อความตามหมายเรียก ระบุว่า นายสุทิน ได้ตกเป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหา ร่วมกันกับ นางกำไลทิพย์ (จำเลยที่ 1) ไปสั่งซื้อวัสดุก่อสร้าง จากร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง ที่อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
โดยสั่งซื้อวัสดุก่อสร้าง เพื่อนำไปทำเล้าหมู จำนวนกว่า 4 แสน 7 หมื่น บาท และ ได้จ่ายเงินไปแล้วส่วนหนึ่ง เป็นเงิน กว่า 2 แสน 7 หมื่นบาท เมื่อวันที่2 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นจำเลยเพิกเฉย ไม่นำเงินที่ยังคงเหลืออีก 2 แสนบาท มาคืนตามที่ได้ระบุในสัญญา เจ้าของร้านจึงยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองคน โดยศาลได้ให้ นายสุทิน เดินทางไปไกล่เกลี่ยที่ศาลจังหวัดกำแพงเพชร ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2560
นายมน (พ่อของนายสุทิน) บอกว่า หลังจากที่มีหมายเรียกจากศาลจังหวัดกำแพงเพชร มาถึงลูกชาย ตนเองรู้สึกตกใจ และ สงสัยว่า เหตุใดลูกชายจึงไปซื้อวัสดุก่อสร้างมาทำเล้าหมู ทั้งที่ยังทำงานอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ และ ทำงานมานานกว่า 10 ปี จะมีเวลาที่ไหนไปเลี้ยงหมู
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม กับ นายสุทิน ได้รับคำยืนยัน ว่า ตนเองไม่เคยเดินทางไปที่จังหวัดกำแพงเพชร และ ทำงานที่บริษัทเอกชนได้หยุดเพียงสัปดาห์ละ 1 วัน อีกทั้งไม่รู้จักกับนางกำไล (จำเลยที่ 1) แต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบดูจากเอกสาร ก็มีความผิดปกติหลายอย่าง คือ นามสกุล ในคำสัญญาก็สะกดคนละอย่าง กับนามสกุลของตนเองคือคำว่า “พูน” ในลายเซ็นเป็น “ล” แต่เอกสารเป็น “น” จึงอยากขอความเป็นธรรมในคดีความดังกล่าวด้วย
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามไปยัง ทนายความผู้ที่รับมอบอำนาจจากโจทย์ ทราบว่า ก่อนที่จะมีการขออำนาจศาลออกหมายเรียกนายสุทิน ได้ไปขอข้อมูลจากทะเบียนราษฎร์ ที่ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร และได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์ ว่า นายสุทิน มีภูมิลำเนา ที่จังหวัดอุบลราชธานี จึงได้ขออำนาจศาลออกหมายเรียกไปตามที่อยู่ และ เพิ่งทราบเรื่องว่า นายสุทิน ที่ระบุตามหมายเรียก ไม่ได้มาซื้อสินค้าที่ร้านค้าดังกล่าว
ทั้งนี้ ตนเองจะเดินทางไปที่ฝ่ายทะเบียนราษฎร์ เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ในวันนี้ (24 ก.ค.2560) ซึ่งมีความเป็นไปได้ ว่า มีคนชื่อ นายสุทิน หลายคน และ อาจมีนามสกุลที่คล้ายกัน และ หากเกิดความผิดพลาดจริงจะเร่งแก้ไข และ จะแจ้งไปยังศาลใหม่ว่า ได้ส่งหมายผิดตัว และทนาย จะได้สอบถามกับทางโจทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการฟ้องร้องให้ถูกตัว จะได้ไม่เกิดความเสียหายต่อสำนักทนายความ และผู้บริสุทธิ์