ไวยาวัจกรวัดบ้านไร่ 2 ร้องกรมสอบสวนคดีพิเศษ อ้างอดีตประธานกรรมการวัด ยักยอกทรัพย์ และฉ้อโกงประชาชน แอบอ้างชื่อขอเงินบริจาคกว่า 100 ล้านบาท
นายธนพัฒน์ สุขเกษม ตัวแทนเครือข่ายประชาชนปฏิรูป พร้อมไวยาวัจกรวัดบุไผ่ หรือวัดบ้านไร่ 2 นำหลักฐานหนังสือแสดงที่ดิน และสำเนาหนังสือรับรองสภาพวัด หลักฐานการโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ ภาพถ่ายแสดงที่ตั้งมูลนิธิฯ และการหาผลประโยชน์ เข้าร้องเรียนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตนายตำรวจที่เคยเป็นอดีตประธานวัดบ้านไร่ 1 และ 2 ในข้อหายักยอกทรัพย์ และฉ้อโกงประชาชน
หลังแอบอ้างชื่อวัดบุไผ่ หรือวัดบ้านไร่ 2 ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนเข้ามาบริจาคเงินเพื่อสร้างรูปเหมือนพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ โดยเปิดบัญชีธนาคารหลายแห่งในนามวัดบุไผ่ แต่ทางเจ้าอาวาส และไวยาวัจกรวัดไม่รู้เรื่อง ซึ่งมีประชาชนบริจาคเงินเจ้าบัญชีดังกล่าวกว่า 100 ล้านบาท และอดีตประธานวัด และพวกได้ถอนเงินออกไป จัดซื้อที่ดิน 11 ไร่ ราคากว่า 9 ล้านบาท ซึ่งอยู่ติดกับวัด โดยอ้างว่าจะขยายวัดบ้านไร่ 2 แต่กลับใส่ชื่อตนเองเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว พร้อมตั้งมูลนิธิหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ขึ้น มาบริหารจัดการผลประโยชน์ และยังจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อให้ผู้ที่สนใจเช่าไปบูชาได้โดยเงินที่ได้จะเข้าไปยังมูลนิธิ
ไวยาวัจกรวัดบุไผ่ เปิดเผยว่า โครงการสร้างหลวงพ่อคูณองค์ที่วังน้ำเขียว เป็นมติของคณะกรรมการวัดที่ตั้งใจสร้างขึ้นมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้กับประชาชน เมื่อปี 2557 แต่กลับมีกลุ่มคนบางกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์จากเงินบริจาค โดยที่ทางวัดบุไผ่ไม่ทราบเรื่อง รวมถึงยังมีการจัดตั้งมูลนิธิโดยที่ไม่มีการหารือกับทางวัดก่อน
จึงอยากให้ดีเอสไออายัดทรัพย์สิน และบัญชีเงินฝาก เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของอดีตประธานกรรมการวัด และตรวจสอบว่ามีการโยกย้ายหรือฟอกเงินหรือไม่