พิษพายุโซนร้อนเซินกายังส่งผลกระทบหลายจังหวัดอย่างต่อเนื่อง หนักสุดที่ จ.สกลนคร เกิดฝนตกติดต่อกันน้ำทะลักท่วมสนามบินสูงกว่า 1 เมตร ต้องสั่งยกเลิกเที่ยวบินกระทันหันเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
สภาพสนามบินสกลนครเวลานี้ ถูกน้ำทะลักเข้าท่วม ทางเข้าสนามบิน และทางขับ(แท็กซี่เวย์) สูงกว่า 1 เมตร ทำให้ทางสนามบินสกลนครต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดของสายการบินที่มีเที่ยวบินตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้ออกไปก่อน
นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าดูปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และหากเพิ่มสูงขึ้นอีกอาจต้องงดทำการบินไปก่อน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยาน
ขณะเดียวกันในหลายพื้นที่ของจังหวัดสกลนคร ยังวิกฤตหนัก ถูกน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง รวมถึงถนนสายหลักสายรอง ถูกตัดขาด รถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ ต้องใช้เส้นทางอ้อมกว่า 10 กิโลกมตร ถึงจะเข้าไปยังตัวเมืองสกลนครได้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้อพยพชาวบ้านกว่า 70 ครัวเรือน ไปอยู่ในที่ปลอดภัย ปริมาณน้ำยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง
ส่วนที่จังหวัดขอนแก่น ผู้ปกครองนักเรียนคนตาบอด ในพื้นที่ตำบลบ้านเป็ดอำเภอเมือง ต้องพายเรือมารับบุตรหลานถึงหน้าโรงเรียนอย่างทุลักทุเล หลังพายุโซนร้อนเซินกาทำพิษหนักฝนตกติดต่อกันจนน้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่ในโรงเรียนสูงเกือบ 2 เมตรนานกว่า 2 วันแล้ว ขณะที่รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้
ส่วนระดับน้ำที่ท่วมขังในขณะนี้ยังทรงตัวไม่มีทีท่าว่าจะลดระดับลง เนื่องจากมีมวลน้ำไหลสะสมมากทำให้การระบายน้ำทำได้ช้าลง
นอกจากโรงเรียนคนตาบอดแล้ว พื้นที่โดยรอบในอำเภอเมืองยังถูกน้ำท่วมขังจนถนนหลายสายกลายเป็นทะลโคลน ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากต้องเดินลุยน้ำออกมาด้านนอกและบางส่วนต้องใช้เรือแทนรถเพื่อเดินทางออกไปทำธุระส่วนตัว
ส่วนที่จังหวัดชัยภูมิ หลังเกิดดินสไลด์ลงมาทับเส้นทางเดินรถไฟรอดอุโมงค์เขาพังเหย ช่วงเขตพื้นที่ตำบลวะตะแบก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ระหว่างสถานีโคกคลี และ สถานีช่องสำราญ ซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จนรถไฟไม่สามารถผ่านไปได้
ล่าสุดเจ้าหน้าที่การรถไฟ เร่งเคลียร์ดินสไลด์ออกจากเส้นทางดังกล่าว สำรวจโครงสร้างภายในอุโมงค์พบว่าไม่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ จึงเหลือแค่ทยอยนำดินที่ปิดทับเส้นทางรถไฟออกเท่านั้น คาดเร็วสุดไม่เกินเย็นนี้
ขณะที่อำเภอแก้งคร้อ ยังคงเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ทำให้มีปริมาณน้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคา ไหลทะลักเข้ามาท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านและโรงเรียนโนนส้มกบ สูงกว่า 1เมตร รวมทั้งพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านยังถูกน้ำท่วมเสียหายนับ 1,000 ไร่
ส่วนที่จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพร้อมอุปกรณ์การชักลาก พร้อมชาวบ้านอำเภอสังขะบุรี พากันแล่นเรือหางยาวกว่า 10 ลำออกระดมชักลากขยะเศษไม้หนักกว่า 20 ตัน ที่ลอยมากับกระแสน้ำป่าลงสู่แม่น้ำซองกาเรีย ลอยติดตอม่อสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ)
ชาวบ้านกลัวสะพานมอญจะพังถล่มลงมา ซ้ำรอยเหมือนกับปี 2556 ที่ฝนถนนติดต่อกันเพียง 3-4 วันเท่านั้น ประกอบกับจะครบรอบสะพานพังถล่มครบ 4 ปี ในวันพรุ่งนี้ ยิ่งทำให้ชาวบ้านยิ่งกังวลใจ จึงพากันออกมารวมพลังร่วมกันเก็บเศษขยะไม้ในครั้งนี้