แม่ทัพภาค 4 เยี่ยมชาวบ้าน ถูกทหารยิงบาดเจ็บ หลังเข้าใจผิด ขณะที่ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สั่งย้ายทหารชุดลาดตระเวน 22 นาย กรณีกราดยิงใส่รถชาวบ้านในจังหวัดปัตตานี บาดเจ็บสาหัส พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง
จากกรณีทหารหน่วยจรยุทธ สังกัดชุดเฉพาะกิจปัตตานี 23 กราดยิง รถกระบะของชาวบ้าน ขณะขับผ่านบริเวณบนถนนชนบท สายกระเสาะ- เกาะจันทร์ หมู่ 2 ตำบลกระเสาะ อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ช่วงกลางดึกวันที่ 28 กรกฏาคมที่ผ่านมา ทำให้ผู้ที่นั่งอยู่ในรถ บาดเจ็บรวม 6 คน
ล่าสุดวานนี้ (30 ก.ค.) นายอุสมาน กาแลซา คนขับรถกระบะที่ถูกยิง ได้เดินทางเข้าพบตำรวจภูธรมายอ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังทหาร ออกมาระบุว่า ยิงเพราะเข้าใจผิด คิดว่า เป็นคนร้าย โดยนายอุสมาน กล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ เห็นใจครอบครัว เพราะตนเองไม่ได้ทำผิด
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ตนเองต้องหยุดงาน เพราะไม่มีรถไปรับจ้างกรีดยาง ที่อำเภอเบตง ส่วนแม่ของตนเอง ถูกกระสุนที่กลางหลัง และถูกสะเก็ดเอ็ม 16 ถูกที่ศีรษะ แพทย์ยังไม่สามารถผ่าตัดเอากระสุนออกได้ เนื่องจากเป็นโรคความดัน สุขภาพยังไม่แข็งแรง และยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ขณะที่พลตรีจตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ออกมายอมรับว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเรื่องสุดวิสัย เบื้องต้น ได้สั่งย้ายทหาร 22 นาย ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ กลับมาช่วยราชการ ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร พร้อมสอบสวนสาเหตุว่า ทำไมจึงเข้าใจผิดว่า เป็นคนร้าย
พร้อมได้ส่งอาวุธไปพิสูจน์หลักฐาน เพื่อให้ไปตรวจหาดีเอ็นเอ เปรียบเทียบกระสุนที่พบที่เกิดเหตุ รวมทั่งลำกล้องปืน และให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอน ส่งฟ้องศาล
ด้านพลโทปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ นำถุงพระราชทาน ของขวัญ ผลไม้ใส่ตระกร้า เข้าเยี่ยมให้กำลังใจนางเจะยารอ อาแว ที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี พร้อมได้มอบเงิน เพื่อเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียหาย
ซึ่งอาการของนางเจะยารอ ยังไม่รู้สึกตัว แพทย์ยังไม่สามารถผ่าตัด เอากระสุนออกได้ ขณะต้องดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะเกรงจะติดเชื้อ
แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวยอมรับทหารผิดพลาด พร้อมรับปากว่า จะรับผิดชอบแก่ครอบครัวผู้เสียหาย โดยจะเยียวยาให้ทุกอย่าง เนื่องจากยอมรับในความผิดพลาดของทหาร
นายอุสมาน เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและอบอุ่น ที่ทหารรับปากว่า จะรับผิดชอบดูแลเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่า เหตุการณ์การณ์ในครั้งนี้ ทำให้ครอบครัวรู้สึกกลัว และหวาดระแวงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบด้านจิตใจ โดยเฉพาะกับเด็ก และแม่ที่ยังไม่หายดี
และเชื่อว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ กระทบต่อความรู้สึกของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะคนที่บริสุทธิ์ ดังนั้น ขอยกให้เป็นบทเรียน และเป็นคดีตัวอย่างให้กับสังคม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้คนในพื้นที่ต่อไป