ชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดตราด โอดรายได้หด ทั้งปัญหาเรือประมงพาณิชย์ที่เข้ามาในเขตอนุรักษ์ และเรือลากแขกที่ทำลายหน้าดิน จนเสียสมดุลธรรมชาติ ขณะราคาสัตว์น้ำกลับถูกลง

นายประณัฐ ลองศิริคง ชาวประมงพื้นบ้านบ้านอ่าวใหญ่ เปิดเผยว่า ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา หลังจากเกิดพายุ และมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือประมงพื้นบ้านกว่า 20 ลำ ที่บ้านอ่าวใหญ่ อำเภอเมืองตราด ต้องจอดอยู่ริมฝั่ง ไม่สามารถออกทำการประมง ส่งผลต่อรายได้จากการทำประมง

ทั้งนี้ เนื่องจากเรือประมงพื้นบ้าน ต้องออกไปทำการประมง ในระยะห่างจากฝั่งเกิน 3,000 เมตร เพราะหากอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ จะไม่มีสัตว์ทะเล หรือมีน้อย จากปัญหาเรือประมงลากแขก และเรือประมงพาณิชย์ เข้ามาทำประมงในพื้นที่ ซึ่งการออกไปทำประมงในระยะไกล ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายสูง และมีอันตรายจากคลื่นลมแรง

ด้านนายชัชวาล นิลโกศล ผู้ประกอบการรับซื้อสัตว์ทะเล ในตำบลอ่าวใหญ่ กล่าวว่า ปัญหาของชาวประมงที่สำคัญในขณะนี้ คือเรือประมงพื้นบ้าน ต้องออกไปทำประมงในระยะห่างจากฝั่งเกิน 3,000 เมตร หลังมีเรือประมงพาณิชย์ และเรือประมงลากแขก เข้ามาลักลอบทำประมง

ซึ่งเรือลากแขกมีเครื่องมือประมง ที่ทำลายธรรมชาติ เพราะตีนอวนจากลากไปกับพื้นที่ทะเล ทำให้หน้าดินเน่า สัตว์ทะเลไม่วางไข่ ส่งผลให้สัตว์ทะเลลดลง ต้องออกไปทำประมงที่ห่างไกลทะเลเกิน 3,000 เมตร ซึ่งเสี่ยงกับอันตรายจากคลื่นลม

ขณะที่การค้าขายสัตว์น้ำก็ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน เพราะราคาสัตว์น้ำ ทั้งปลา ปู และกุ้ง มีราคาที่ลดลง รวมทั้งหากยากขึ้น ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ จึงอยากให้ภาครัฐควบคุมเรื่องการทำประมงที่ผิดกฎหมาย และต้องไม่ให้เรือประมงพาณิชย์เข้ามาในพื้นที่ทำกินของเรือประมงพื้นบ้านด้วย

Cr.กฤษฎาพงษ์ // ตราด