เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 เร่งติดตั้งสะพานแบริ่งช่วงถนนที่ถูกน้ำเซาะตัดขาด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
เจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันติดตั้งสะพานแบริ่ง ช่วงถนนเชื่อมต่อ เส้นทางระหว่างบ้านหัวหนอง ตำบลดอนกอก อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ กับบ้านกุดน้ำใส ตำบลหนองเม็ก อำเภอนางเชือก จังหวัดมหาสารคาม
ที่ถูกกระแสน้ำไหลหลากกัดเซาะพังเสียหาย รวมระยะทางยาวกว่า 30 เมตร ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้ ให้กลับมาใช้งานได้ชั่วคราวก่อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวบ้าน ที่ก่อนหน้านี้ ต้องใช้แพลากข้ามไปมาได้รับความเดือดร้อนมาก
ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่สำนักงานชลประทานจังหวัดอุบลราชธานี นำธงแดงที่เป็นเครื่องหมาย ไปติดสะพานข้ามแม่น้ำมูล ในอำเภอเมืองอุบลราชธานี และสะพานถนนเลี่ยงเมือง ทั้งเขตเทศบาลนครอุบลราชธานี เทศบาลเมืองวารินชำราบ เพื่อเตือนให้ชาวบ้านในพื้นที่โดยรอบ และพื้นที่ใกล้เคียงให้อพยพหรือขนสิ่งของขึ้นที่สูง เนื่องจากแนวโน้มระดับแม่น้ำมูล ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก
ส่วนระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ M7 สะพานเสรีประชาธิปไตย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานอีก 14 เซนติเมตร ทำให้มีระดับน้ำสูง 7.57 เมตร โดยมีน้ำล้นตลิ่งสูง 57 เซนติเมตร ซึ่งเกินปริมาณรองรับของลำน้ำที่ 2,3000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
และที่จังหวัดยโสธร ปริมาณน้ำในแม่น้ำชี ที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน ที่บ้านแจ้งน้อย ตำบลค้อเหนือ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ริมตลิ่งมีน้ำชี ระดับน้ำภายในหมู่บ้าน สูงประมาณ 50 เซนติเมตร และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างช้าๆ
ทั้งนี้ พื้นที่ทางการเกษตร โดยเฉพาะนาข้าว ถูกน้ำท่วมทั้ง 9 อำเภอ ในจังหวัดยโสธร และคาดว่า จะได้รับความเสียหายทั้งหมด จำนวน 129,497.50 ไร่ เกษตรกรที่ประสบภัย จำนวน 20,118 คน
ขณะที่ชาวนากว่า 50 คน รวม 3 หมู่บ้าน ในพื้นที่ตำบลพนมเศษ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ เรี่ยไรเงินซื้อวัสดุและอุปกรณ์ มาอุดปากท่อในคลองส่งน้ำสาธารณะ ในพื้นที่หมู่ 10 เพื่อป้องกันน้ำท่วมนาข้าว
หลังระดับน้ำในพื้นที่อำเภอชุมแสง เริ่มไหลบ่าทุ่งนาเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เสียหายแล้วหลายร้อยไร่ โดยชาวนา บอกว่า หากป้องกันครั้งนี้ไม่ได้ นาข้าวที่เหลือในพื้นที่ลุ่มต่ำ จะถูกน้ำท่วมเสียหายนับหมื่นไร่ จึงต้องช่วยกันลงขันป้องกันไว้จะดีกว่า
ส่วนผู้ที่ใช้เส้นทางลงใต้ ช่วงรอยต่อจังหวัดพังงา ไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องหลีกเลี่ยงไปก่อน หลังฝนตกต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ทำให้พื้นผิวถนนสาย 401 กม.27+150 เขาสก เกิดการแตกร้าวตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา
กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ ดินด้านล่างถนน ได้เกิดไสลด์ลงไป ทำให้ทางหลวงช่วงดังกล่าวขาด ต้องปิดการจราจร ส่งผลให้ประชาชนที่สัญจรเส้นทางนี้ ไม่สามารถผ่านได้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังแขวงทางหลวงพังงา เพื่อขอรถแบ็คโฮ พร้อมวัสดุสำหรับทำไหล่ทาง เพื่อทำทางเบี่ยงชั่วคราวแล้ว
ส่วนประชาชนชาวทั่วไป และชาวจังหวัดพังงา และชาวจังหวัดภูเก็ต ที่จะต้องเดินทางผ่านไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องเลี่ยงไปใช้เส้นถนนสาย 4118 อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา ไปยังอำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานีแทน สำหรับผู้ที่อยู่ในจังหวัดระนอง ก็สามารถใช้เส้นทางผ่านจังหวัดชุมพรได้ปกติ