ผู้เสียหายที่ถูกตำรวจดำเนินคดียักยอกทรัพย์คนหนึ่ง เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับกระทรวงยุติธรรม หลังพบว่า ถูกออกหมายจับโดยมิชอบ แถมยังเสียเงินค่าเดินทางไปศาล และค่าประกันตัวรวมกว่า 2 ล้านบาท ทั้งที่ไม่เคยมีคดีในสารบบ
นายเดช จันทร์เปรม อายุ 54 ปี เดินทางเข้าร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรม หลังถูกตำรวจภูธรห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ดำเนินคดีในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ โดยไม่เป็นธรรม
นายเดช เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ได้ช่วยคนรู้จักติดต่อหาคนรับจำนำรถยนต์ แต่ต่อมา คนรู้จักได้ขาดส่งดอกเบี้ย จนรถยนต์ถูกนำออกไปขาย
กระทั่ง เดือนเมษายน 2559 ผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของรถตัวจริง ได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรห้วยกระเจา เพื่อให้ดำเนินคดีกับตน จนเรื่องดังกล่าวดำเนินไปถึงชั้นอัยการ ก่อนที่จะไกล่เกลี่ย และถอนฟ้องคดีในที่สุด
แต่ระหว่างดำเนินคดีนั้น ตนได้ไปขอดูบันทึกประจำวัน กับตำรวจชุดจับกุม ซึ่งตำรวจแสดงความไม่พอใจ และยังบอกว่า ตนมีหมายจับที่ศาลจังหวัดนครพนม เมื่อปี 2551 ก่อนจะประสานให้ตำรวจที่นครพนม มารับตัวตนไปดำเนินคดี
ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 7 เดือน ที่ตนต้องต่อสู้คดี ต้องเดินทางจากจังหวัดกาญจนบุรี ไปขึ้นศาลจังหวัดนครพนม ถึง 17 ครั้ง มีค่าใช้จ่ายการเดินทาง และหลักทรัพย์ประกันตัวกว่า 2 ล้านบาท
แต่ต่อมา ศาลยกฟ้องในเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งเมื่อตนไปตรวจสอบหมายจับดังกล่าว กลับไม่พบว่า มีสำนวนคดีอยู่ในสารบบ จึงคาดว่า ตัวเองน่าจะถูกกลั่นแกล้งจากตำรวจ จึงต้องเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทางกระทรวงยุติธรรม
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม จะทำการสอบปากคำนายเดช และขอตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดก่อน จึงจะพิจารณาอีกครั้งว่า จะช่วยเหลือนายเดช อย่างไร