หญิงสาววัย 43 ปี เข้าร้องเรียนกับทางดีเอสไอ หลังถูกเพื่อนสนิทหลอกยืมเงินกว่า 2 ล้านบาท โดยอ้างว่า นำไปใช้หนี้ก่อนวางเช็คเด้งค้ำประกัน เผยมีชาวบ้านในพื้นที่ ตกเป็นเหยื่อแล้วกว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท
นางจิดาภา เขียวนาวะ อายุ 43 ปี พร้อมกลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอ หลังถูกนางจำรูญ เชื้อพุทธ อายุ 48 ปี ยืมเงินไปหลายล้านบาท ก่อนนำเช็คเด้งมาค้ำประกัน โดยมีพันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นางจิดาภา เล่าว่า เมื่อประมาณปี 2555 ตนได้ขายที่ดินไป 11 ไร่ ได้เงินมาก้อนหนึ่ง ต่อมา นางจำรูญ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทตน ได้มาขอร้องกู้ยืมเงินจากตนกว่า 2 ล้านบาท อ้างว่า จะนำไปใช้หนี้นอกระบบที่กู้มา ซึ่งตนก็ให้ยืมไป
โดยนางจำรูญ ได้นำเช็คเงินมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเดือนกว่าๆ นางจำรูญ ก็ได้หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงนำเช็คดังกล่าวไปขึ้นเงิน แต่ก็เบิกไม่ได้อีก เพราะไม่มีเงินในบัญชี
ตนจึงไปแจ้งความเอาไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2555 จนนำไปสู่การออกหมายจับนางจำรูญ ในที่สุด
นอกจากนี้ นางจำรูญ ยังได้ใช้วิธีเดียวกัน หลอกเอาเงินจากชาวบ้านในพื้นที่ 3 ตำบล ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนมีผู้เสียหายแล้วกว่า 20 ราย รวมยอดความสูญเสียประมาณ 30 ล้านบาทด้วย
ซึ่งเมื่อตนสอบถามไปยังตำรวจท้องที่ว่า ทำไมถึงยังไม่จับตัวผู้ต้องหาสักที ก็กลับไม่ได้รับคำตอบ จึงต้องมาร้องให้ดีเอสไอช่วยตามจับกุมให้ เนื่องจากหมายจับกำลังจะหมดอายุความ ในวันที่ 12 ตุลาคมที่จะถึงนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม พันตำรวจตรีวรณัน ได้กล่าวว่า ในเบื้องต้น ทางดีเอสไอไม่สามารถช่วยเหลือผู้เสียหาย ในการติดตามตัวผู้ต้องหาได้ เนื่องจากดคีดังกล่าวไม่ได้เป็นคดีพิเศษ แต่จะเร่งประสานงานกับทางตำรวจภูธรภาค 8 ให้ดำเนินการติดตามตัวผู้ต้องหาคนนี้แทนให้