"นายอำนวย คลังผา" ชี้ ไม่เห็นด้วยที่มีการกล่าวหา อปท. ว่า มีการใช้งบประมาณขนมวลชนไปเชียร์ "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" เชื่อประชาชนเดินทางไปให้กำลังใจด้วยความบริสุทธิ์ใจ และคงไม่มีใครกล่าเสี่ยงใช้งบในทางที่ดิดแน่นอน

นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลสั่งให้มีการตรวจสอบองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลังจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยื่นให้ตรวจสอบว่า บางพื้นที่อาจใช้งบนำประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลจะพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าว 25 สิงหาคมนี้ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่มีการกล่าวหา อปท. เพราะหากไม่มีหลักฐานก็ไม่ควรกล่าวหากัน คือ เมื่อไม่เห็นก็ไม่ควรพูด เพราะท้องถิ่นต่างมีกฎระเบียบและข้อบังคับอยู่แล้ว

เชื่อว่า คงไม่มีกล้าใช้งบประมาณไปในลักษณะนั้น เพราะถ้าใช้งบขนคนมาเชียร์ นางสาวยิ่งลักษณ์จริง จะมีความผิด ส่วนตัวที่อยู่ในพื้นที่ ยืนยันได้ว่า ท้องถิ่นไม่กล้าทำเช่นนี้แน่นอน และท้องถิ่นจะต้องรักษาเกียรติภูมิของตัวเองไว้ จึงไม่กล้าเสี่ยงแน่นอน โดยมั่นใจว่า ประชาชนไปให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ด้วยความรักและศรัทธา และส่วนตัวก็ไม่เคยชักชวนชาวบ้านให้เดินทางไปเชียร์นางสาว ยิ่งลักษณ์

ด้านพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ได้กำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ไปชี้แจงกับองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ว่า การจะนำงบประมาณไปใช้ขอให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงมหาดไทยยังตรวจสอบไม่พบว่า มีการนำงบประมาณไปใช้ขนมวลชนเดินทางเชียร์นางสาวยิ่งลักษณ์ และยังไม่มีรายงานเข้ามาว่ามีการทำผิดในพื้นที่ใดบ้าง หาก สตง.มีข้อมูลก็สามารถส่งเรื่องมาได้ เพราะเรื่องนี้มีความผิดทางวินัย หากพบจะลงโทษโดยเด็ดขาด ทั้งผู้บริหาร และสภาองค์กรท้องถิ่น

ขณะที่นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข้อพิรุธ 2 ประการที่อาจส่งผลกระทบคดีโครงการรับจำนำข้าวที่จะมีการพิพากษาในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ว่า 1.กรณีตำรวจสระแก้ว จับกุมรถพ่วงบรรทุกข้าวหอมปทุมธานีได้ 7 คันรถ เมื่อ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ขณะนี้เวลาได้ล่วงเลยมากว่า 15 วันแล้ว กระทรวงพาณิชย์ยังไม่เปิดเผยผลการตรวจสอบ จึงส่อพิรุธว่า อาจมีการนำข้าวดีจากการประมูลเป็นอาหารสัตว์ไปแปรสภาพที่โรงสีใน จ.ฉะเชิงเทรา หรือไม่

2.การที่ภาคเอกชนผู้ดูแลโกดังข้าวที่ จ.อ่างทอง และอีกหลายแห่งร้องขอความเป็นธรรมกับหลายหน่วยงานว่า ข้าวมีคุณภาพดี ไม่ควรถูกนำไปประมูลเป็นข้าวคุณภาพต่ำสำหรับทำอาหารสัตว์ แต่ฝ่ายรัฐกลับปฏิเสธไม่ให้ตรวจสอบคุณภาพข้าว โดยอ้างว่าได้ตรวจสอบไปแล้ว เป็นข้อพิรุธว่า ดำเนินการไม่โปร่งใสหรือไม่

หากนำข้าวคุณภาพดีไปขายในราคาข้าวคุณภาพต่ำ เท่ากับทำให้ข้อเท็จจริงในการตรวจสอบความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวผิดเพี้ยนไป และหากเป็นเช่นนั้น ย่อมกระทบความยุติธรรมคดีจำนำข้าว ทั้งคดีอาญาและคดีทางละเมิดหรือไม่เพราะจะเป็นการสร้างความเสียหายแล้วโยนความผิดให้บุคคลอื่น จึงเรียกร้องให้ใช้คำสั่งตามอำนาจมาตรา 44 คุ้มครอง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับนางสาวยิ่งลักษณ์