ความคืบหน้าการร่างกฎหมายลูก หลังกรรมาธิการ สนช. มีแนวคิดว่า จะไม่เซ็ตซีโร่ กสม. แถมจะต่ออายุให้อีก 3 ปีนั้น ล่าสุด "นายมีชัย ฤชุพันธุ์" ออกมายืนยันว่า ต้องเซ็ตซีโร่ กสม. ตามหลักการ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกลาง เปิดเผยว่า จากที่กรรมการร่างรัฐธรรรมนูญ (กรธ.) มีแนวคิดเกี่ยวกับร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.โดยจะใช้ระบบการเลือกตั้งแบบแยกเบอร์รายเขต ซึ่งทำให้วิธีการเลือกตั้งแตกต่างและยุ่งยากกว่าในอดีตนั้น

กกต.จึงจะจัดสาธิตการลงคะแนนดังกล่าววันที่ 23 ส.ค.ที่ลานชั้น 2 ของสำนักงาน กกต.จึงได้ส่งการ์ดเชิญไปยัง 3 หน่วยงาน คือ 1.กรธ. โดยเฉพาะนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. 2. สนช. โดยเฉพาะนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 และ 3. คณะกรรมการปฏิรูปด้านการเมือง โดยเฉพาะ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานปฏิรูปการเมือง มาร่วมสังเกตการณ์

ซึ่งการสาธิตจะเป็นการจำลองหน่วยเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด จะแยกเป็น 9 ภูมิภาค และจะนำเทคโนโลยีทุกอย่างที่กกต.คิดว่าจะอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สิทธิมาสาธิต เพื่อให้เห็นว่าหากระบบดังกล่าวนำมาใช้จริงกับการเลือกตั้งแล้ว จะมีบัตรเลือกตั้ง 350 แบบ ซึ่งจะทำให้รูปแบบการจัดการเลือกตั้งของ กกต. และการใช้สิทธิของประชาชนจะยุ่งยาก และเสียเวลาเพิ่มขึ้น

การจัดสาธิตดังกล่าวเป็นความพยายามของ กกต.ที่จะคิดหาวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อตอบสนองความคิดของ กรธ. ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อเอาชนะ หรือบอกว่าใครดีกว่าใคร แต่เป็นการมาแสดงให้เห็นว่ามีจุดไหนที่ต้องปรับปรุง เพื่อให้การเลือกตั้งในอนาคตเป็นระบบที่สมบูรณ์แบบ

ด้านนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรธ.กล่าวถึง การพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ของสนช.ในวันนี้ (17 ส.ค.) ว่า การเสนอให้เซ็ตซีโร กสม. ไม่มีวาระซ่อนเร้น เพราะตนสนิทกับกสม.ทุกคน ทุกคนเป็นคนน่ารัก

แต่มันมีเหตุผลของแต่ละองค์กร เช่น กสม.นั้น มีที่มาของการสรรหาไม่เปิดกว้าง ไม่มีเวลาให้กลุ่มที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเพียงพอ ตามที่ระบุไว้ในหลักการปารีส ซึ่งเป็นพันธกรณีที่ระหว่างประเทศที่ต้องทำตาม จึงทำให้ กสม.ไปประชุมกับต่างประเทศในฐานะของกสม.ไม่ได้ ต้องไปในฐานะทีมงานของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อพูดอะไรต่างชาติก็ไม่รับฟัง

ส่วนกรณีที่นายสมชัย ได้ส่งการ์ดเชิญร่วมดูสาธิตการเลือกตั้งแบบแยกเบอร์ส.ส.รายเขตนั้น นายมีชัย กล่าว “ไม่ได้รับการ์ดอะไร” ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์และเข้าห้องประชุมทันที

ขณะเดียวกัน ในวันนี้ (17 ส.ค.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในวาระที่ 2 และ 3 หลังจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญที่ได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ การดำรงตำแหน่งของกสม.ชุดปัจจุบัน

ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญได้แก้ไขจากร่างของ กรธ.ให้กสม.ดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 3 ปี แต่ กรธ. ที่เป็นกรรมาธิการไม่เห็นด้วย และเห็นว่า ควรให้กสม.ออกจากตำแหน่งทั้งหมด

โดยขณะนี้ท่าทีของสมาชิกสนช.แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่ม เห็นควรแก้ไขให้กสม.อยู่ในตำแหน่งไป 3 ปี และกลุ่มเห็นด้วยกับกรธ.ด้วยการเซ็ตซีโร่ กสม. ทุกคน