คดีปล้นรถ 7 คัน ไปประกอบระเบิดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตำรวจระบุ รู้กลุ่มที่ก่อเหตุแล้ว คาดมีประมาณ 15 คน ขณะที่พ่อเจ้าของเต็นท์รถ เผยนาทีชีวิตลูกชาย
คดีปล้นเต็นท์ขายรถมือสอง ในอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่พบรถที่ถูกขโมยไปรวม 7 คันหมดแล้ว
ล่าสุด นายบุญธรรม ยี่จิน พ่อของนายธานีศักดิ์ ยี่จีน เจ้าของเต็นท์รถ ได้เปิดเผยนาทีเกิดเหตุ แทนลูกชายที่หลบไปอยู่ในที่ปลอดภัยชั่วคราว โดยเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายไม่ได้อยู่ที่เต็นท์รถ และได้โทรศัพท์ไปหาลูกน้อง แต่ไม่มีคนรับสาย จึงขับรถไปดู พบเพียงชายฉกรรจ์ 7 คน ที่แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่สวมเสื้อเขียนคำว่า POLICE ที่หน้าอกแจ้งว่า มาขอตรวจทะเบียนรถ ลูกชายจึงขอดูบัตร
แต่จังหวะนั้น คนร้ายอีกคนใช้ปืนตีเข้าที่สะบักหลัง จนล้มลง ก่อนที่จะถูกลากตั วไปรวมกับลูกน้องอีก 3 คนที่ถูกจับมัดไว้แล้ว จากนั้นจึงรื้อค้นกุญแจรถยนต์ ทยอยขับรถออกไป
คนร้ายได้จับลูกชาย และลูกน้องไปด้วย และพูดว่า จะพาไปเผานั่งยาง ระหว่างทาง ลูกชายได้ใช้กุญแจรถที่อยู่ในกระเป๋า ช่วยกันตัดสายเคเบิล ที่ใช้มัดมือจนขาด เมื่อถึงที่เปลี่ยว คนร้ายได้ลากลงจากรถมายิงทีละคน
โดยคนแรกคือนายสหรัฐ แหละหนิ๊ ถูกยิงจ่อหัวเสียชีวิต คนที่ 2 คือ นายประทานพร นวลละมูล ถูกที่ไหล่ และแกล้งตาย ส่วนลูกชายเป็นคนที่ 3 ซึ่งในเสี้ยววินาทีนั้น ลูกชายบอกว่า ได้นึกถึงหลวงปู่ทวด และรวบรวมสติ ก่อนจะวิ่งหลบหนีมาได้
ส่วนการตามจับกลุ่มที่ก่อเหตุ พลตรีจตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ระบุว่า กลุ่มที่ก่อเหตุนั้น มีกลุ่มใหญ่เพียง 2-3 กลุ่ม คือ กลุ่มนายซอบือรี เจ๊ะฮะ อาหามะ สะอิ ที่ก่อเหตุปล้นรถ ที่อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี และนำรถมาปล้นเต็นท์รถ ได้รถอีก 6 คันที่ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา
และกลุ่มที่ปล้นรถนำไปประกอบระเบิดคือ นายบูคอลี หลำโซะ / นายรอซือดี บือแน และกลุ่มนายมะนาเซ ไซดี รวมประมาณ 15 คน
พลตรีจตุพร ยังระบุว่า ทราบความเคลื่อนไหวกลุ่มที่ก่อเหตุมาก่อนแล้ว 1 วัน แต่ไม่คาดคิดว่า จะปล้นรถนอกพื้นที่ และนำมาก่อเหตุในพื้นที่