ขสมก.เผยผลการทดลองเดินรถ 8 เส้นทางปฏิรูปใหม่ 3 วัน ประชาชนยังสับสน ผู้โดยสารใช้บริการน้อย เส้นทางละ 20-30 คนต่อเที่ยว ขณะที่เส้นเดิมใช้บริการเส้นทางละ 100 คนต่อเที่ยว
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.เปิดเผยผลการเปิดทดลองเดินรถ 8 เส้นทางปฏิรูปใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15-17 สิงหาคม ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนยังสับสนและมีความไม่เข้าใจในเส้นทางเทดองเดินรถ เนื่องจากยังมีสอบถามเรื่องเส้นทางตลอด เพราะไม่กล้าขึ้นใช้บริการ
เนื่องจากเกรงว่า รถเมล์สายดังกล่าวไม่ผ่านเส้นทางที่ตนต้องการจะเดินทางไป รวมทั้งไม่คุ้นชินกับเส้นทางดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การทดลองเดินรถเส้นทางทั้ง 8 เส้นทาง ไม่ส่งผลกระทบประชาชนมากนัก เนื่องจากประชาชนบางส่วนยังใช้รถเมล์สายเดิมที่เดินคู่ขนานกับเส้นทางเดินรถอยู่
โดยการลดความสับสนของประชาชนนั้น ทาง ขสมก.จะยังใช้แนวทางเดิม คือเพิ่มการประชาสัมพันธ์มากขึ้น เช่น ขณะนี้ทาง ขสมก.ได้ทยอยใส่ข้อมูลประชาสัมพันธ์บนจอแสดงป้ายบอกทางในแต่ละสถานี บนรถเมล์ทุกสายไปแล้วประมาณ 1,000 กว่าคัน จากที่มีอยู่ 2,000 คัน คาดว่าจะใส่ข้อมูลให้ครบทุกสายภายในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ยังจะมีการแนะนำให้ประชาชนผู้ใช้บริการ ที่รอรถเมล์ตามป้ายรถเมล์ทั้ง 8 เส้นทางเดินรถผ่านสามารถอ่านข้อมูลที่ติดเป็นแผ่นโปสเตอร์บริเวณป้ายรถเมล์ด้วย รวมทั้งแจกแผ่นพับเกี่ยวกับรายละเอียด 8 เส้นทางในป้ายรถเมล์ที่เดินรถผ่าน และให้พนักงานเก็บค่าโดยสารช่วยบอกแนวเส้นทางที่ผ่านให้กับผู้โดยสารควบคู่ไปด้วย
สำหรับปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการทั้ง 8 เส้นทางที่ผ่านมา พบว่าในแต่ละเส้นทางจะมีผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20-30 คนต่อเที่ยว ซึ่งเมื่อเทียบกับเส้นเดิมที่เทียบเคียง ปกติจะมีผู้โดยสารใช้ในแต่ละเส้นทางประมาณ 100 คนต่อเที่ยว
สตง.เตรียมส่งหนังสือถึง ขสมก.กรณีปลดแบล็คลิสต์ "บ.เบสท์รินฯ"
ด้าน นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่ ขสมก.ดำเนินการปลดแบล็คลิสต์ บริษัทเบสท์ริน ว่า อาจกระทบต่อหลักธรรมาภิบาล เพราะบริษัทเบสท์ริน เป็นบริษัทที่ไม่สามารถส่งรถเมล์เอ็นจีวีตามสัญญา จนสร้างความเสียหายแก่รัฐในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งหากเป็นกรณีของเอกชนกับเอกชน คงไม่ยอมให้บริษัทที่เคยสร้างความเสียหายเข้าร่วมประมูลอีก
ดังนั้น สตง.จึงตั้งประเด็นข้อเสนอแนะและเตรียมส่งหนังสือไปสอบถามยัง ขสกม.โดยเฉพาะประเด็นที่ฝ่ายกฎหมายของ ขสกม.ปลดแบล็คลิสต์ โดยอ้างว่า บริษัทเบสท์ริน ไม่มีเจตนาส่งมอบรถเมล์ให้กับ ขสมก.ล่าช้า ทั้งที่ข้อเท็จจริง บริษัท เบสท์ริน มีการแสดงการจดประกอบรถเมล์ที่มีข้อพิรุธ และมีผลต่อการประเมินภาษีของศุลกากร จึงเท่ากับว่า บริษัทเบสท์ริน มีเจตนาบางอย่างที่ส่งผลกระทบให้การส่งงานล่าช้าและไม่เป็นไปตามสัญญา
อย่างไรก็ตามเมื่อ ขสมก. ได้รับฟังข้อท้วงติงจาก สตง. ผ่านสื่อมวลชนแล้ว เชื่อว่าจะมีการมาตรการทางปฏิบัติที่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่อไป